จากการดำเนินการตามกลยุทธ์ด้านราคาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง KEX โชว์ปริมาณการจัดส่งพัสดุด่วนในไตรมาส 3/2564 เติบโตอย่างโดดเด่นกว่า 48.0% เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้พุ่งทะยานกว่า 5,331 ล้านบาท เติบโตกว่า 18.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 และ 15.9% จากไตรมาส 2 พร้อมการให้บริการอย่างมีคุณภาพแม้อยู่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดที่ผ่านมา การันตีด้วยอัตราการจัดส่งตรงเวลาสูงกว่า 99.86% อัตราการตีกลับพัสดุต่ำกว่า 1.2% และการหยุดชะงักของกระบวนการทำงานเป็นศูนย์ เรามุ่งมั่นสู่การครองตำแหน่งผู้นำตลาดจัดส่งพัสดุด่วนในไทย พร้อมทั้งเดินเกมรุกเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบ ecosystem ผ่านการลงทุนและการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ
นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX เปิดเผยว่า "ด้วยแบรนด์ KEX ซึ่งเป็นที่ยอมรับในตลาดมาอย่างยาวนาน พร้อมทั้งคุณภาพการบริการที่เราให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา KEX ได้เพิ่มความสามารถในการรองรับการจัดส่งพัสดุขึ้นเพื่อรองรับยอดพัสดุที่เพิ่มขึ้นสูงสุด เราจะไม่ยอมให้เกิดการบริการที่ไม่มีคุณภาพขึ้นเป็นอันขาด โดย KEX วางแผนใช้กำไรในระยะสั้นบางส่วนเพื่อจัดให้มีทรัพยากรสำรอง และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจัดส่งพัสดุเพื่อไม่ให้เกิดการหยุดชะงักในการดำเนินงานของทุกส่วนดังเช่นที่เกิดขึ้นกับคู่แข่งในตลาด ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและจะค่อยๆ ลดลงเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความสามารถในการลดต้นทุนต่อหน่วยที่ปรับตัวลดลงนั้น จะสร้างความได้เปรียบทางด้านต้นทุนต้นทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และจะทำให้เราสามารถให้บริการแก่ลูกค้าอย่างมีคุณภาพในราคาที่จับต้องได้ ความสำเร็จของกลยุทธ์ด้านราคาเป็นที่ประจักษ์ชัดจากการที่ เราสามารถรุกตลาดราคาประหยัดและมีฐานจำนวนลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่า 7.5 ล้านราย เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า การบริการที่เยี่ยมยอดด้วยราคาที่เข้าถึงได้จะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของตลาดไทย ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจและการเตรียมการของบริษัทฯ ที่ได้วางไว้
นอกจากนี้ KEX ยังตอกย้ำจุดยืนการเป็นผู้นำด้านธุรกิจการจัดส่งพัสดุด่วน ด้วยการต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่ในการผนึกกำลังกับพันธมิตรรายใหญ่ในอุตสาหกรรม ล่าสุดได้ลงนามในสัญญาการร่วมทุนกับเครือเบทาโกร หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพที่ใหญ่ที่สุดในไทย ผลักดันบริการ KERRY COOL เพื่อเข้าสู่ตลาดขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิด้วยคุณภาพและเทคโนโลยีระดับโลก โดยความร่วมมือในครั้งนี้ คาดว่าจะเข้ามาสนับสนุนรายได้และกำไรของ KEX อย่างมีนัยยะสำคัญในระยะกลางเป็นต้นไป รวมถึงในเร็วๆ นี้ บริษัทฯ จะประกาศการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจ Less-than-truckload (LTL) delivery และระบบ e-Wallet ภายใต้ชื่อ KERRY Wallet ซึ่งจะเชื่อมโยงลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นและภักดีต่อแบรนด์ให้คงอยู่กับเราต่อไป และจะมีการนำเสนอบริการออกสู่ตลาดในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย โดย KERRY Wallet จะมีการบริการในรูปแบบเฉพาะ ซึ่งจะเข้ามาเชื่อมต่อและรวบรวมบริการต่างๆเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งหมดไว้ในที่เดียว และจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น "เราคาดว่าลูกค้าของเราจะใช้จ่ายเงินบนบริการเสริมต่างๆ ที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้ นอกเหนือจากการใช้บริการจัดส่งพัสดุเพียงอย่างเดียว" นายอเล็กซ์กล่าวเสริม โดย KEX มีลูกค้าที่ใช้จ่ายเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์บนระบบเพิ่มขึ้นกว่า 90.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าถือหุ้นของ S.F. Holding ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นในธุรกิจจัดส่งพัสดุด่วนที่ใหญ่และดีที่สุดในเอเชีย เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Kerry Logistics Network อย่างเป็นทางการ (ผู้ถือหุ้นสูงสุดของ KEX) จะเข้ามาสนับสนุนและยกระดับความได้เปรียบในการแข่งขันด้วยการเข้าถึงเทคโนโลยีการพัฒนาแพลตฟอร์มและการให้บริการอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศไทยและจีน เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ในอนาคต