APCO ยกระดับการดำเนินธุรกิจ พัฒนางานวิจัยปรับเพิ่มภูมิคุ้มกันสมดุล ขยายฐานลูกค้าในและต่างประเทศ ชูกลยุทธ์ซื้อผลิตภัณฑ์รับคะแนนสะสมแลกหุ้น กระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง ตั้งเป้าสร้างรายได้เพิ่ม 2 เท่าในปี 65 ก้าวสู่การเป็นผู้นำ Health Care Biotech ของไทย
ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจของ APCO เน้นการวิจัยพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จากการร่วมวิจัยพัฒนาในโครงการ Operation BIM ปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันให้สมดุล ซึ่งเป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพ การทำงานในโครงการนี้เริ่มจากการร่วมลงนามสัญญาการวิจัยพัฒนากับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ APCO ภายใต้การสนับสนุนของ สวทช.
นวัตกรรมหลักที่เกิดขึ้นจากการร่วมปฏิบัติการระหว่างภาครัฐและเอกชนนี้ ทำให้เกิดสูตรเพิ่มภูมิคุ้มกัน (Boosting Immunity) ในกลุ่มผู้บริโภคที่มีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าปกติแล้วมีปัญหาติดเชื้อตลอดจนเป็นมะเร็งได้ง่าย และสูตรปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล (Balancing Immunity) ในกลุ่มผู้บริโภคที่มีปัญหาแพ้ภูมิตัวเองจากปัญหาที่มีภูมิคุ้มกันมากเกินไป
สูตรเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ช่วยให้ผู้บริโภคมีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ภูมิคุ้มกันวิทยาว่าเป็นนวัตกรรมล่าสุดในศตวรรษที่ 21 ที่ทำให้จัดการกับปัญหาติดเชื้อไวรัสที่กำจัดได้ยาก เช่น HIV/AIDS ให้มีภาวะ HIV หมดฤทธิ์/ปลอดเชื้อ โดยไม่ใช้ยาต้านไวรัสได้เป็นครั้งแรกของโลกหลังจากการพบเชื้อ HIV มาแล้ว 39 ปี และได้ช่วยให้ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS มีสุขภาพแข็งแรงเหมือนปกติเป็นจำนวนนับสิบราย และจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งทุกอาการและในทุกระยะ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนนับพันราย และจัดการกับปัญหามะเร็ง จนทำให้ APCO ได้รับรางวัลบริษัทที่มีนวัตกรรมดีเด่นในปี 2559 อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ติดเชื้อวัณโรค ไวรัสตับอักเสบ เชื้อรา และแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาแผนปัจจุบัน ให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ปกติล่าสุด APCO ได้พัฒนาสูตรเพิ่มภูมิคุ้มกันนี้ ให้ผู้บริโภคสามารถย้อนวัย ชะลอวัย และอายุยืนขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์เทโลเมียร์ ซึ่งเป็นส่วนปลายของโครโมโซม
ขณะที่สูตรการปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุล คณะนักวิจัย APCO ได้ พัฒนาสูตรเพื่อแก้ไขอาการ เบาหวาน ข้อ/เข่าเสื่อม ตาเสื่อม SLE รูมาตอยด์ พาร์กินสัน สะเก็ดเงิน และอาการแพ้ภูมิอื่นๆ ตลอดจนเซลล์ที่ติดเชื้ออื่นๆ ด้วยประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง
"ในทศวรรษที่ 2 ของ APCO มีแผนขยายฐานผู้ใช้นวัตกรรมเหล่านี้ให้ได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS จะมุ่งเน้นช่วยผู้มีปัญหาในต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 38 ล้านคนทั่วโลก โดยจะมีการจัดตั้ง International Center for Plant-based HIV Functional/Eradication Cure ด้วยระบบ Remote Monitoring (ติดตามผลทางออนไลน์) ในขณะที่สูตรสำหรับผู้ที่ป่วยมะเร็งจะมีการนำไปใช้ในศูนย์ภูมิคุ้มกันบำบัดร่วมกับสถาบันทางการแพทย์ หรือที่จัดตั้งขึ้นเอง โดยศูนย์นี้จะให้บริการกับผู้มีปัญหาการแพ้ภูมิตัวเองในสูตรที่ปรับภูมิคุ้มกันให้สมดุลด้วย" ศ.ดร. พิเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ธุรกิจหลักในประเทศของ APCO จะเน้นการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์ย้อนวัย ชะลอวัยและทำให้อายุยืน มุ่งเน้นทำการตลาดผ่าน Social Media รวมถึงทั้งการขายผ่านศูนย์ BIM Health Center และตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักลงทุนที่สนใจ บริษัทมีแผนการตลาดที่ทำให้ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ได้มีโอกาสสะสมคะแนนแลกหุ้น APCO ได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้ APCO เป็นบริษัทมหาชนร่วมสร้างโดยมหาชนในที่สุด
นอกจากนี้ APCO ได้พัฒนาสูตรพิเศษเพื่อใช้รักษาโรคในสัตว์เลี้ยง เช่น FIV ในแมว และ มะเร็งในสุนัข ซึ่งมีผลการใช้ที่น่าพึงพอใจมาก
ศ.ดร. พิเชษฐ์ กล่าวเสริมว่า บริษัทวางแผนผลักดันให้มีการใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ โดยคณะนักวิจัย APCO มีความมั่นใจว่าประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคแล้วเพิ่มยอดขายต่างประเทศให้กับ APCO อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีน ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินการในโครงการเหล่านี้ คาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 2 เท่าภายในปลายปี 2565 และเป็น 3 เท่าภายในปี 2566 ก้าวสู่การเป็นผู้นำ Health Care Biotech ของไทย
อนึ่ง APCO จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2554 และย้ายเข้าซื้อขายในตลาด SET ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ปัจจุบันมีหุ้นจดทะเบียน 600 ล้านหุ้น พาร์ 0.5 บาท ซึ่ง APCO มีวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งบริษัท ให้เป็นบริษัทมหาชนร่วมสร้างโดยมหาชน คือให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์สูงสุดจากการช่วยส่งเสริมธุรกิจของบริษัท จึงได้มีนโยบายจ่ายเงินปันผล 100% และได้ทำต่อเนื่องครบ 10 ปี