บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) ฮอต! หุ้นกู้เพื่อพัฒนาสังคมรายแรกที่ออกโดยผู้ออกที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินภายใต้มาตรฐานหุ้นกู้เพื่อพัฒนาสังคมของอาเซียน มูลค่า 1 พันล้านบาท ขายหมดเกลี้ยง สถาบันจองล้น สะท้อนความเชื่อมั่นตอกย้ำการเติบโตอย่างยั่งยืน ชูจุดเด่นเรทติ้งระดับ AAA มี CGIF ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย 2.15% อายุ 5 ปี "ศิริลักษณ์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์"ระบุบริษัทฯจะนำเงินจากการจำหน่ายหุ้นกู้เพื่อระดมทุนไปใช้ในการซื้อวัตถุดิบในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย และใช้ในการจ้างพนักงานท้องถิ่น
นางสาวศิริลักษณ์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่าการเสนอขายหุ้นกู้เพื่อพัฒนาสังคมรายแรกที่ออกโดยผู้ออกที่ไม่ใช่สถาบันการเงินภายใต้มาตรฐานหุ้นกู้เพื่อพัฒนาสังคมของอาเซียน มูลค่า 1 พันล้านบาท ผลตอบรับดีเกินความคาดหมาย นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองล้น สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และมีนโยบายผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ หุ้นกู้เพื่อพัฒนาสังคมนี้ เป็นหุ้นกู้ที่ได้รับการค้ำประกันเต็มจำนวนจาก Credit Guarantee and Investment Facility (CGIF) ที่จัดตั้งโดยความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ASEAN+3 ร่วมกับ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank - ADB) หุ้นกู้ มีอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.15 ต่อปี ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ "AAA" โดยทริสเรทติ้ง ได้เสนอขายให้กับผู้ลงทุนสถาบันตั้งแต่วันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2564 โดยมีธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้
การจัดทำกรอบการจัดหาเงินทุนเพื่อความยั่งยืนได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจาก ADB ภายใต้กรอบความร่วมมือ ASEAN+3 Asian Bond Markets Initiative (AMBIF)
"สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯนำเงินไปใช้ในการซื้อวัตถุดิบในประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทยในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งจะนำไปใช้ในการจ้างพนักงานท้องถิ่น" บริษัทฯ หวังว่าการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มการยกระดับความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในท้องถิ่น และสร้างความตระหนักในการช่วยพัฒนาสังคมไทยให้ดีขึ้น นางสาวศิริลักษณ์กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงินกล่าวอีกว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ TFG ในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่มีนโยบายการเปิดประเทศ คาดว่ากำลังซื้อจะฟื้นตัว ทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจส่งออกมีสัญญาณที่ดีขึ้น ซึ่งราคาจำหน่ายไก่ส่งออก ปรับตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2564 ขณะที่ธุรกิจ Fresh mart เป็นอีกธุรกิจที่เริ่มมีนัยสำคัญมากขึ้น สามารถสร้างรายได้มากขึ้น และบริษัทฯมีแผนขยายสาขา Thai Food Fresh Market Shop โดยจะทำให้ภายในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสาขาที่เปิดขายรวม 70 สาขา ซึ่งเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคในเครือบริษัท สามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายไก่ และสุกรให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งยังจะช่วยเพิ่มยอดขาย และสนับสนุนพอร์ตรายได้ให้มีเสถียรภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งสำหรับ Shop ที่เปิดขายแล้วนั้นได้ผลตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก
นอกจากนี้บริษัทฯได้วางงบลงทุนในช่วง 3 ปีโดยในปีนี้จะเน้นการลงทุนขยายธุรกิจสุกรในไทย ในประเทศเวียดนาม และขยายธุรกิจอาหารสัตว์ รวมถึงขยาย Thai Foods Fresh Market Shop ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง