บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์ (COLOR) โชว์ผลงานโตแกร่งท้าโควิด Q3/64 รายได้แตะ 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.4% กำไรสุทธิ 14.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ผลจากยอดขายเม็ดพลาสติกโตแรงโดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เน้นจำหน่ายสินค้าที่มีกำไรขั้นต้นสูง ฟากเอ็มดี "พีรพันธ์ จิวะพรทิพย์" ระบุโค้งสุดท้ายปีนี้ พร้อมลุยจำหน่ายสินค้าตามออเดอร์ล่วงหน้าที่ตุนไว้แล้ว ประเมินรายได้ปีนี้มีลุ้นโตทะลุเป้าที่วางไว้ 6-8 % พร้อมเดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทน โครงการผลิตทุ่นโซลาร์ลอยน้ำเต็มกำลัง หวังช่วยสร้างรายได้ประจำ หนุนอนาคตโตมั่นคง
นายพีรพันธ์ จิวะพรทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/64 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564) มีรายได้รวม 301 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59 ล้านบาท หรือ 24.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 242 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 14.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26 ล้านบาท หรือ 9.4% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 242 ล้านบาท
สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาท หรือ 18.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 738 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือ 26.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 738 ล้านบาท
"แม้จะเกิดสถานกาณณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ภาพรวมผลการดำเนินงานธุรกิจในไตรมาส 3 และ 9 เดือนของปีนี้ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจหลักซึ่งมียอดขายสูงกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับพลาสติกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์พลาสติกเกี่ยวข้องอื่นๆ รวมถึงบริษัทได้เน้นผลิตสินค้าที่มีความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นสูง ขณะเดียวกันสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการผลิตปริมาณมากขึ้นทำให้ต้นทุนต่อหน่วยการผลิตลดลง จึงมั่นใจว่าแนวโน้มรายได้รวมในปีนี้มีโอกาสจะเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6 - 8 % จากปีก่อน "
นายพีรพันธ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงเดินหน้าในการผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้าพลาสติกที่เกี่ยวข้อง บรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าประเภทอื่นๆ โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อระยะยาว จนถึงสิ้นปีนี้กว่า 30% และมีโอกาสรับงานใหม่เพิ่มขึ้นโดย ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ควบคู่ไปด้วย
ในส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนได้ลงทุนผ่าน "บริษัท เดอะบับเบิ้ลส์ จำกัด" ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และที่ผ่านมาได้สั่งซื้อเครื่องจักรและทดสอบระบบเพื่อผลิตทุ่นลอยน้ำโซลาร์เซลล์ โดยคาดว่าธุรกิจพลังงานทดแทนจะเริ่มเห็นรายได้เพิ่มขึ้นภายในปีหน้า ซึ่งจะสนับสนุนเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ประจำ (Recuring Income) และกระจายความเสี่ยงธุรกิจ อีกทั้งธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่ดีส่งผลให้แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น