สัปดาห์นี้ปัจจัยกระทบการลงทุนได้แก่ (1) การประกาศ GDP 3Q21 ของประเทศไทยในวันจันทร์ Bloomberg Consensus คาดที่ -1.3%YoY -4%QoQ รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 แม้การขยายตัวโตของเศรษฐกิจจะติดลบแต่เชื่อว่าไม่มีผลมากนักเนื่องจากตลาดให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวในอนาคตมากกว่า ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงฟื้นตัวตามการผ่อนคลายมาตรการ (2) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน 3Q21 ที่จะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการรายงานในช่วงเช้าวันที่ 16 พ.ย. ข้อมูลล่าสุดสำหรับ SET100 รายงานออกมาแล้ว 84 หุ้นคิดเป็น Market Capitalization รวมกันที่ 80% ของ SET มีกำไรสุทธิรวมกันที่ 1.37 แสนล้านบาท (+16%YoY -30%QoQ) การขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนเป็นผลจากกลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP) ธนาคารพาณิชย์ (SCB KBANK KTB BBL) ปิโตรเคมี (IVL PTTGC) โรงพยาบาล (BDMS) โรงไฟฟ้า (EA GULF) ส่วนการลดลง QoQ เป็นผลจากปิโตรเคมี (SCC PTTGC) ค้าปลีก (CPALL HMPRO GLOBAL) อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) สำหรับหุ้นที่เรามองว่าน่าสนใจได้แก่หุ้นที่ผลประกอบการ 3Q21 ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและหลังจากนี้จะเริ่มฟื้นตัว อาทิ ร้านอาหาร (M) ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO DOHOME GLOBAL) ปั๊มน้ำมัน (PTG) เครื่องดื่ม (CBG OSP TACC) แฟชั่น (MC) แพ็คเกจจิ่ง (SCGP) ศูนย์การค้า (CPN) รถไฟฟ้า (BEM) (3) ยอดค้าปลีกสหรัฐในวันอังคาร Bloomberg คาด +1.2%MoM เชื่อว่าหากจะเป็นบวกกับตลาดควรจะใกล้เคียงหรือต่ำกว่าคาดเพื่อลดความกังวลเงินเฟ้อดังนั้นจากปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมาให้น้ำหนักเป็นเพียงกลางๆต่อการลงทุนจึงเชื่อว่าสัปดาห์นี้จะยังเป็นลักษณะแกว่งในกรอบ 1620 - 1650
กลยุทธ์การลงทุน สำหรับระยะกลางยังแนะทยอยสะสม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC DOHOME HMPRO GLOBAL) รถไฟฟ้า (BEM) ร้านอาหาร (M) เครื่องดื่ม (CBG OSP SAPPE TACC) ปั๊มน้ำมัน (PTG) ส่วนระยะสั้นแนะ SIS OSP PTG DOHOME GLOBAL
DOHOME (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28 บาท) คาดผลประกอบการ 4Q21 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากความต้องการในการปรับปรุงบ้านเรือนหลังน้ำท่วม และความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น YoY
GLOBAL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 29 บาท) คาดผลประกอบการ 4Q21 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY จากความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น การขยายสองสาขาใหม่ ความต้องการในการปรับปรุงบ้านเรือนหลังน้ำท่วม และค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น