FLOYD ประกาศผลงาน Q3/64 มีรายได้อยู่ที่ 106.07 ลบ. เพิ่มขึ้น 37.47% กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.24 ลบ. ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 62.48% ผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่ผลงานงวด 9 เดือน มีรายได้จากการให้บริการ 258.82 ลบ. เพิ่มขึ้น 82.95 ลบ. เพิ่มขึ้น 107.78% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีการรับรู้รายได้งานในมือในช่วง Q2/64 มารับรู้รายได้ใน Q3 ที่ผ่านมา หนุนผลงาน 9 เดือนปีนี้ เติบโต มีกำไรสุทธิ 7.48 ลบ. เพิ่มขึ้น 107.78% เชื่อแนวโน้มผลงาน Q4/64 ฟื้นตัว หลังรัฐประกาศเปิดประเทศ เป็นสัญญาณเชิงบวก เป็นปัจจัยบวกที่ดีของ FLOYD ให้กลับมาคึกคักได้เหมือนเคย เผยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานภาคเอกชนซึ่งมีโอกาสได้งานสูง เสริมแกร่งรายได้ ชูกลยุทธ์ขยายขอบเขตการรับงานและมุ่งเน้นควบคุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน สร้างการเติบโตของรายได้และกำไร จากจุดแข็งความพร้อมด้านบุคลากร และความเชี่ยวชาญการเป็นผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวในอนาคต
นายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภค และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวด ไตรมาส 3/2564 มีรายได้จากการให้บริการ 106.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.47% จาก 77.16 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ที่สำคัญ ประกอบด้วย รายได้จากโครงการแนวราบ อาคารสำนักงาน และดาต้าเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยยังอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการภาครัฐที่จำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวดที่ผ่านมา ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 2.24 ล้านบาท ลดลง 3.37 ล้านบาท หรือลดลง 62.48% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 5.97 ล้านบาท บริษัทฯ จึงได้ทบทวนกลยุทธ์ โดยขยายขอบเขตการรับงานและมุ่งเน้นควบคุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และกำไร
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้จากการให้บริการ 258.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 107.78% จาก 175.87 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของ ปีก่อน โดยมีการรับรู้รายได้งานในมือในช่วงไตรมาส 2 เลื่อนมาทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา สนับสนุนผลงาน 9 เดือนที่ผ่านมาเติบโตแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิ 7.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.88 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 107.78% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.60 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายของปี จะดีกว่าในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยมองว่าหลังรัฐบาลประกาศเปิดประเทศ น่าจะเป็นสัญญาณเชิงบวก และธุรกิจของ FLOYD อิงกับระบบสาธารณูปโภค เชื่อว่าน่าจะเป็นปัจจัยบวกของบริษัทฯ ที่ดีให้กลับมาคึกคักได้เหมือนเคย โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในด้านการคมนาคม จะกระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ ภาคเอกชนได้รับความเชื่อมั่น ทยอยเปิดตัวงานโครงการใหม่เพิ่มขึ้น และส่งผลดีต่อ FLOYD ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานวางระบบแบบครบวงจร ที่ได้รับการยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการที่รวดเร็วด้วยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจ
ล่าสุดบริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลประมูลงานใหม่ส่วนใหญ่เป็นงานภาคเอกชน เป็นงานของลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ ซึ่งมีโอกาสได้รับงานสูง และที่ผ่านมาได้เข้าไปประมูลงานรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งเป็นงานรับเหมาช่วง (subcontractor) คาดว่าจะทราบผลช่วงกลางปีหน้า พร้อมรับงานที่จะเร่งทยอยออกมาต่อเนื่องหลังภาพรวมสถานการณ์โควิดมีทิศทางที่ดีขึ้น
"โดยกลยุทธ์ของบริษัทฯ ยังเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม กลุ่มห้างค้าปลีก ได้แก่ โฮมโปร ควบคู่การขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ รวมไปถึงงานระบบอาคารสำนักงาน และงานระบบดาต้าเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ FLOYD ยังเน้นการบริหารจัดการด้านการเงิน และรักษาสภาพคล่องของบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ และดำเนินการตามระบบการบริหารงานคุณภาพ รวมทั้งระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย เพื่อให้ได้การรับรองตามมาตรฐาน ISO9001:2015 & ISO45001:2018" นายทศพร กล่าว