บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE รายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 11/2564 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยซึ่งมีสาระสำคัญได้แก่ ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่ 3/2564 การแต่งตั้งกรรมการอิสระและประธานกรรมการบริษัท การจัดตั้งบริษัทย่อย การออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทรุ่นที่ 1 (EE-W1) ให้ผู้ถือหุ้นเดิมฟรี สัดส่วน 2:1 และการได้รับ Rating Corporate Governance อยู่ที่ระดับดีเลิศ
ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 31,188,354 บาท เพิ่มขึ้นจำนวน 72.97 ล้านบาท หรือร้อยละ 174.65 เมื่อเปรียบเทียบกับจากไตรมาส 3/2563 เป็นรายได้รวมจำนวน 91.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2563 จำนวน 89.32 ล้านบาท หรือร้อยละ 3,440.58 ส่งผลให้สำหรับงวด 9 เดือนบริษัทฯมีกำไร 184 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 3/2564 บริษัทฯ ได้จำหน่ายเงินลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้า SSUT ในบริษัทย่อยคือ บริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) จำนวน 7,297,500 หุ้นออกให้แก่บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (E-COGEN) มูลค่า 1,246,121,100 บาท เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564
เพื่อให้สอดคล้องกับภาพธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายธนะชัย สันติชัย ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 นายธนะชัยเป็นผู้ซึ่งมีความรู้ความสามารถ และมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับตำแหน่งดังกล่าว ตลอดจนมีประสบการณ์การดำรงตำแหน่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร กรรมการ หรือที่ปรึกษาในองค์กรต่างทั้งบริษัทจำกัด บริษัทมหาชน ตลอดจนองค์กรไม่แสวงหากำไรหลากหลายประเภท การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการของนายธนะชัยจะเป็นการเติมเต็มให้คณะกรรมการของ EE มีทั้งความหลากหลาย และความเข้มแข็ง และจะเป็นกำลังสำคัญในการนำพาบริษัทฯ สู่ทิศทางการบริหารที่แข็งแรงมั่นคง
นายวรศักดิ์ เกรียงโกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของธุรกิจกัญชา-กัญชงที่บริษัทได้เข้าลงทุนไปแล้วใน บริษัท แคนนาบิซเวย์ จำกัด หรือ CW ว่า CW มีเทคโนโลยีที่โดดเด่นในวิธีการปลูกกัญชง-กัญชาทั้งในโรงเรือน (Greenhouse) และกลางแจ้ง (Outdoor) ซึ่งคาดว่าน่าจะมีข่าวดีคือเตรียมได้รับใบอนุญาตปลูก(ผลิต) กัญชงอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งทาง CW ก็พร้อมที่จะเริ่มลุยเพาะปลูกกัญชงคุณภาพระดับสูงบนพื้นที่กว่า 36 ไร่
"การเข้าลงทุนในบริษัท CW มีความโดดเด่นแต่ยังเป็นการประกอบธุรกิจเพียงช่วงต้นน้ำในขณะที่บริษัทมีแผนเข้าดำเนินธุรกิจกัญชา-กัญชงอย่างครบวงจร ทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ เรายังมีโครงการอื่นๆ อยู่ในระหว่างการพิจารณา ที่ประชุมคณะกรรมการฯ จึงเห็นสมควรให้จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบธุรกิจให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของบริษัทอย่างทันท่วงที"
นายวรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่าการลงทุนหรือพัฒนาธุรกิจกัญชา-กัญชงให้ครบวงจรนั้นมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินทุนที่เพียงพอ ที่ประชุมคณะกรรมการฯ จึงเสนอให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 4 มกราคม 2565 เพื่อขอพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทรุ่นที่ 1 (EE-W1) จำนวนไม่เกิน 1,390,000,000 หน่วยให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 2 ต่อ 1 หน่วยของ EE-W1 โดยไม่คิดมูลค่า และพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 1,390,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,780,000,000 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิใบแสดงสิทธิ EE-W1 โดยการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,390,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2530 โดยได้ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้เสมอมา ทำให้บริษัทได้รับ Corporate Governance Score หรือคะแนนที่สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประเมินให้แก่บริษัทฯ ว่ามีความน่าเชื่อถือน่าลงทุนจาก ได้รับ 5 ดาวบรรษัทภิบาลแห่งชาติ (National CG Committee) และปรับ rating เป็นดีเลิศ หรืออยู่ในลำดับที่ 67 จากการสำรวจคะแนน CGR ประจำปี 2564 ของบจ.ไทย 716 บริษัท