- มุ่งใช้วัสดุสำหรับหีบห่อพัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดใช้พลาสติกเพื่อความยั่งยืน
- คาดว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ถึง 300 ตันต่อปี
ลอรีอัล ประเทศไทย ร่วมกับ Shopee และ Lazada สองแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมบุกเบิกการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในกลุ่มธุรกิจด้านความงามอีคอมเมิร์ซ โดยลดการใช้พลาสติกในหีบห่อพัสดุสำหรับจัดส่งผลิตภัณฑ์ เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งมอบแก่สังคมและส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ยั่งยืนจากแบรนด์ในเครือลอรีอัล ประเทศไทย ตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืนปี 2030 "L'OREAL FOR THE FUTURE"
บุกเบิกการดำเนินงานธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างยั่งยื่น
ผู้บริโภคที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของลอรีอัล ประเทศไทย ประกอบด้วย Garnier, Maybelline, L'Oreal Paris, La Roche-Posay, Vichy และ CeraVe ผ่านร้านทางการของแบรนด์จาก 2 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำอย่าง Shopee Mall และ LazMall จะได้รับการจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่บรรจุไว้ในพัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่าที่เคย โดยการเลือกสรรวัสดุสำหรับหีบห่อพัสดุที่ยั่งยืน ด้วยการใช้กล่องกระดาษที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสูงสุดระดับสากลด้านสิ่งแวดล้อมและป่าไม้จาก FSC TM* พร้อมกับใช้กระดาษสำหรับกันกระแทกทดแทนการใช้พลาสติก รวมถึงเทปกาวกระดาษ เพื่อมุ่งลดปริมาณการใช้พลาสติกที่คาดว่าจะสามารถลดได้กว่า 300 ตันต่อปีจากพัสดุจำนวน 1,000,000 กล่อง
การบุกเบิกโครงการนี้ ลอรีอัล กรุ๊ป ได้มุ่งมั่นดำเนินงานตามแนวทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างยั่งยืนไปทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยรวมถึงการได้ร่วมมือด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับ Alibaba ซึ่งปัจจุบันได้ทำการส่งมอบพัสดุปลอดพลาสติกไปกว่า 40,000,000 กล่อง ให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศจีน
นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าวว่า "ปัจจุบันผู้บริโภคใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การริเริ่มโครงการครั้งนี้ นับเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกอย่างสูญเปล่าในระบบนิเวศธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ สำหรับภายใต้พันธสัญญาเพื่อความยั่งยืน L'OREAL FOR THE FUTURE เราไม่เพียงแต่ปฏิรูปการดำเนินงานทางตรงของบริษัทเท่านั้น การทำงานของเรายังรวมถึงส่วนพันธมิตรทางธุรกิจและขอบเขตทางธุรกิจในวงกว้าง รวมถึงธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เราได้ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นแกนหลักสำคัญเพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจเลือกสิ่งที่สร้างความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น สำหรับโครงการพัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นเพียงหนึ่งในหลากหลายแนวทางที่อุตสาหกรรมความงามสามารถมีส่วนช่วยในการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม เราจึงหวังว่าสิ่งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับบริษัทต่างๆ เดินหน้าร่วมมือเพื่อสร้างความยั่งยืนแก่โลกใบนี้ไปกับเรา"
เพื่อเผยแพร่ข่าวสารอย่างกว้างขวางและดึงดูดความสนใจในการมีส่วนร่วมกับโครงการพัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ลอรีอัล ประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมพิเศษด้วยการส่งมอบเมล็ดพันธุ์กะเพราที่ได้รับการสนับสนุนจากเจียไต๋ โฮมการ์เด้น โดยกลุ่มบริษัทเจียไต๋ ฟรีถึง 10,000 ซอง เพื่อให้ลูกค้านำไปปลูกและสร้างพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน พร้อมของชำร่วยเพื่อความยั่งยืนอื่นๆ ให้กับลูกค้าที่ช้อปผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Garnier, Maybelline และ L'Oreal Paris ผ่านร้านอย่างเป็นทางการของแบรนด์จาก Shopee Mall ในช่วงแคมเปญ Super Brand Day ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้
ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืน
การริเริ่มโครงการล่าสุดนี้ นับเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นดำเนินงานเพื่อสร้างความยั่งยืนของ ลอรีอัล กรุ๊ป ภายใต้วิสัยทัศน์ "L'Oreal for the Future" พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมล่าสุดสำหรับปี 2030 ที่ได้ประกาศเมื่อปี 2020
L'Oreal for the Future มุ่งมั่นที่จะเร่งการทำงานด้านความยั่งยืนและรวบรวมกิจกรรมต่างๆ เพื่อต่อกรกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมเคารพในความหลากหลายทางชีวภาพและประโยชน์ต่อสังคม โดยกำหนดเป้าหมายไว้ ดังนี้
- ภายในปี 2025 โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของลอรีอัลทุกแห่งจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสุทธิเป็นศูนย์ (carbon neutral) ด้วยการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้พลังงานทดแทน 100%
- ภายในปี 2030 พลาสติกใช้ในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ลอรีอัลทั้งหมด 100% จะมาจากพลาสติกรีไซเคิล หรือ จากแหล่งวัสดุชีวภาพ
- ภายในปี 2030 ผลิตภัณฑ์ของลอรีอัลจะต้องเป็นสูตรส่วนผสมจากแหล่งชีวภาพ 95% ที่ได้มาจากแหล่งแร่ธาตุที่มีทรัพยากรมาก หรือจากกระบวนการหมุนเวียน
* FSC (Forest Stewardship Council(TM)) ฉลากที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ ที่มีการกำหนดนโยบายโดยสมาชิกจากภาคส่วนสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่ทำการปลูกต้นไม้เพื่อทดแทนไม้ที่นำไปใช้ในการผลิตและแปรรูป