กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ออกประกาศ "ข้อกำหนดคุณลักษณะเฝือกขาจากยางพารา" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางเลือกใช้แทนเฝือกปูนแบบเดิม ด้วยสมบัติของยางพาราทำให้ผลิตภัณฑ์เฝือกมีความแข็งแรงเหมาะสมกับการใช้เป็นเวลานาน โดยจัดทำร่วมกับ 7 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจากการยางแห่งประเทศไทย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี.ที. ศูนย์เครื่องมือ บริษัท ยูเนียนรับเบอร์โกล์ฟ จำกัด และบริษัท ที.ที. สหอินเตอร์ จำกัด
นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยกลุ่มยางและผลิตภัณฑ์ยาง กองวัสดุวิศวกรรมได้พัฒนา "ข้อกำหนดคุณลักษณะเฝือกขาจากยางพารา" และประกาศใช้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 เพื่อให้มีการรับรองคุณภาพที่เหมาะสมต่อการใช้งานของประชาชน และได้เกณฑ์การยอมรับที่ถูกต้องเป็นไปตามหลักวิชาการของทุกภาคส่วน ซึ่งการทดสอบจะแบ่งออกเป็นหลายหัวข้อ ประกอบด้วย มิติและเกณฑ์ความคลาดเคลื่อน คุณลักษณะที่ต้องการ ปริมาณยางพารา ความหนาแน่น เป็นต้น โดยผู้ผลิตที่มีความประสงค์จะใช้ข้อกำหนดคุณลักษณะตามประกาศนี้ สามารถระบุในผลิตภัณฑ์ได้ว่า "คุณลักษณะของเฝือกขาจากยางพารา เป็นไปตามประกาศกรมวิทยาศาสตร์บริการ เรื่อง ข้อกำหนดคุณลักษณะเฝือกขาจากยางพารา"
สำหรับเฝือกขาจากยางพารา ใช้เป็นเฝือกทางเลือกทดแทนเฝือกปูนแบบเดิม ลดผลแทรกซ้อนจากการใช้เฝือกปูน เช่น แผลกดทับจากความแข็งของเฝือก ฝึกรัด เป็นต้น ข้อดีของเฝือกขาจากยางพาราคือมีความแข็งแรง น้ำหนักเบา ยืดหยุ่น ทำความสะอาดง่าย สะดวกต่อการใช้งาน สามารถใส่เองที่บ้านได้และมีประสิทธิภาพในการประคองข้อเท้าได้ดีเมื่อเปรียบเทียบกับเฝือกปูน
ทั้งนี้ กรมวิทยาศาสตร์บริการให้การรับรองและทดสอบผลิตภัณฑ์เฝือกขาจากยางพาราตามประกาศข้อกำหนดฉบับนี้ ผู้ที่สนใจขอการรับรองผลิตภัณฑ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call center 02-2017000 และ 02-2017176