ลีสซิ่งกสิกรไทย เปิดแคมเปญรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 มอบข้อเสนอให้กับลูกค้าออกรถใหม่ป้ายแดงภายใต้แคมเปญ "คลาย-ล็อก-ดาวน์" รับข้อเสนอดีฟรี 3 ต่อ ชูผลงาน 10 เดือน ปล่อยกู้รถใหม่โต 29% กำไรเพิ่ม 60% สวนทางตลาดรถยนต์ที่ยังหดตัว เดินหน้าต่อเตรียมอัดแคมเปญเชิงรุก เน้นจุดแข็งให้สิทธิประโยชน์พิเศษแก่ฐานลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ตอบโจทย์ให้ครอบคลุมลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ทุกกลุ่ม
นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ลีสซิ่งกสิกรไทยได้ออกแคมเปญรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 หรือ Motor Expo 2021 ภายใต้คอนเซ็ปต์ "คลาย-ล็อก-ดาวน์" ออกรถใหม่กับลีสซิ่งกสิกรไทย รับข้อเสนอดี 3 ต่อ "คลาย-ล็อก-ดาวน์" ต่อที่ 1 คลายกังวลกับเชื้อไวรัส รับฟรีเครื่องฟอกอากาศภายในรถยนต์ มูลค่า 3,190 บาท ต่อที่ 2 ล็อกค่างวด รับสิทธิ์ขับฟรีนาน 90 วัน และต่อที่ 3 ได้รับสิทธิ์ผ่อนดาวน์ 0% นานสูงสุด 6 เดือน ผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทย สำหรับลูกค้าที่สมัครสินเชื่อตั้งแต่ 1 ธ.ค. ถึง 31 ธ.ค. 64 ได้รับอนุมัติและทำสัญญาเช่าซื้อภายใน 28 ก.พ. 65 รับสิทธิพิเศษนี้ ภายในงาน Motor Expo 2021 และโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายรถทั่วประเทศ หรือสมัครสินเชื่อรถออนไลน์ได้ทาง www.kasikornleasing.com
สำหรับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ของลีสซิ่งกสิกรไทยในช่วงเวลา10 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-ต.ค. 64) มียอดรวมกว่า 74,303 ล้านบาท โดยเฉพาะสินเชื่อรถใหม่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 29% และบริษัทได้เน้นการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มฐานรากมากขึ้นผ่านบริการ"สินเชื่อรถช่วยได้" ทั้งประเภทเช่าซื้อและจำนำทะเบียน ทำให้สินเชื่อรถช่วยได้เติบโตถึง 24% นอกจากนั้นยังให้บริการสินเชื่อรถใช้แล้วผ่านช่องทางเต็นท์รถยนต์ ซึ่งปกติจะมีความเสี่ยงสูง แต่บริษัทสามารถบริหารคุณภาพสินเชื่อ จนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.25% ดีกว่าปีที่แล้ว 0.06% และควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไร 1,396 ล้านบาท เติบโต 59.91%
ในขณะที่สภาวะของตลาดรถยนต์ไทยไตรมาส 3 ปี 2564 หดตัวสูงถึง -26.5% โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ายอดขายรถยนต์ในประเทศ ทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 725,000 - 740,000 คัน หดตัว -6.3 ถึง -8.5% จากปีที่แล้ว สอดคล้องกับสภาวะของสินเชื่อรถในปีนี้ โดย ณ ไตรมาส 3/2564 ยอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อรถในระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ ชะลอลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ไตรมาส ที่ 1.160 ล้านล้านบาท หดตัวลง -1.66% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2563 และหดตัวลง -1.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์โควิด-19 ในไทยที่ดีขึ้น ทั้งด้านอัตราการฉีดวัคซีน การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่และหลายกิจการ รวมถึงแผนการเปิดประเทศ คาดว่าจะช่วยให้ภาพรวมทั้งปีอาจติดลบน้อยลงมาอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง -0.5% และคาดว่า สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อาจกลับมาเติบโตในกรอบประมาณ 2.0-4.5% สอดคล้องกับการประเมินว่า ยอดขายรถใหม่ที่จะเติบโตขึ้นพร้อมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 750,000 ถึง 800,000 คัน หรือขยายตัว 3% - 10% จากปี 2564 โดยยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการที่ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการใช้จ่าย และแม้แต่กลุ่มสถาบันการเงินเองก็คาดว่าจะเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น
นายธีรชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 ลีสซิ่งกสิกรไทยยังคงเดินหน้าออกแคมเปญรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปยังเซกเมนต์ที่มีศักยภาพในการเติบโต รวมถึงใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายบริการและฐานลูกค้าของธนาคารกสิกรไทย เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม นอกจากนี้ยังคงเน้นการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งสำหรับบริการก่อนและหลังการขาย การใช้ Data Analytics เพื่อรู้จักและรู้ใจลูกค้าให้มากขึ้น เสนอผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจ ถูกเวลา พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่ยังไม่เคยทำตลาด อาทิ รถบ้านมือสอง และผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้ารายย่อยที่ไม่ต้องแสดงเอกสารที่มีขั้นตอนยุ่งยากและเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
สำหรับการร่วมมือกับพันธมิตรนั้น ลีสซิ่งกสิกรไทยยังเน้นไปที่การร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลายทั้งผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ ดีลเลอร์ผู้แทนจำหน่ายรถใหม่และรถใช้แล้ว รวมถึงพันธมิตรทางด้านช่องทาง Market place เพื่อการทำการตลาดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง และจะมีแคมเปญใหม่ ๆ ทยอยออกมาเพื่อเอาใจลูกค้าตลอดในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าธุรกิจหรือลูกค้าบุคคลรายย่อย ผ่านความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยที่มีฐานลูกค้าที่มีศักยภาพอยู่แล้ว