ผลวิจัยชี้ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรในเอเชียแปซิฟิคร้อยละ 70 ขานรับเทคโนโลยี โมบิลิตี้

ข่าวทั่วไป Wednesday December 21, 2005 17:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--เอพีพีอาร์ มีเดีย
ผลงานวิจัยชิ้นใหม่ของอวาย่าสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริหารองค์กรส่วนใหญ่ วางใจให้พนักงานทำงานผ่านรูปแบบโมบิลิตี้ โดยผู้บริหารกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เชื่อมั่นว่าระบบโมบิลิตี้เป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจ
อวาย่า อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการแอพพลิเคชันสื่อสารทางธุรกิจ ระบบงานและการบริการ เผยผลการศึกษาเรื่องโมบิลิตี้ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารระดับสูงในภูมิภาค ต่างตอบรับรูปแบบการทำงานในลักษณะโมบิลิตี้ ซึ่งเป็นแบบแผนการทำงานตามแบบตะวันตก ทั้งนี้ผู้บริหารสองในสามที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า แนวคิดทั้งหมดที่ช่วยให้พนักงานมีความคล่องตัวระหว่างการทำงานที่ต้องเดินทางไปมา (mobility) ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในยุคการแข่งขันสูงได้
อวาย่า มอบหมายให้ไอดีซีทำสำรวจเรื่องสภาพแวดล้อมการทำงานแบบโมบาย ซึ่งต้องอาศัยการเดินทางไปมาอยู่ตลอดเวลา สำหรับองค์กรธุรกิจในเอเชียแปซิฟิค (Asia Pacific Business Mobility Survey) กับกลุ่มผู้บริหารระดับสูงบริษัทข้ามชาติและองค์กรขนาดใหญ่ใน 11 ประเทศ ให้รับทราบถึงผลกระทบของเทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่ ที่ใช้ในการทำงานในภูมิภาคนี้ จากผลสำรวจ เป็นที่น่าประทับใจว่าผู้บริหาร 70 เปอร์เซ็นต์วางใจให้พนักงานทำงานจากภายนอก โดยระดับความไว้วางใจสูงมากในประเทศนิวซีแลนด์ที่ 95 เปอร์เซ็นต์ เกาหลี 87 เปอร์เซ็นต์ และอินเดีย 84 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงผู้บริหารในมาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ และสิงคโปร์ กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ล้วนเชื่อใจพนักงาน ส่วนผู้บริหารในไทยที่นำแนวคิดด้านโมบิลิตี้มาใช้คิดเป็นจำนวนกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เชื่อใจให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้
ความต้องการระบบสื่อสารที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ในโลกที่ไร้พรมแดน ที่เพิ่มมากขึ้น นับเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนความคิดผู้บริหารอาวุโสในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมาสู่รูปแบบการทำงานแบบโมบิลิตี้ ในแถบเอเชียเหนือ ผู้บริหารเชื่อมั่นในเรื่องการทำงานแบบโมบาย ว่ามีประโยชน์และเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบ เช่น ช่วยลดเวลาในการนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะ โดยเฉพาะในเกาหลีความเชื่อมั่นในเรื่องดังกล่าวสูงถึง 72 เปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่น 45 เปอร์เซ็นต์ และจีน 45 เปอร์เซ็นต์
สำหรับประเทศในแถบเอเชียใต้ การให้บริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้านับเป็นประเด็นหลัก โดยในอินเดียให้ความสำคัญ 47 เปอร์เซ็ฯต์ มาเลเซีย 47เปอร์เซ็นต์ และฟิลิปปินส์ 41เปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้บริหารในไทยเชื่อว่าความสามารถในการทำงานได้ขณะที่ต้องเดินทางอยู่นอกออฟฟิศ (Mobility) จะช่วยให้พนักงานจัดการกับดีลธุรกิจใหม่ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จากข้อเท็จจริง พบว่า ผู้มีอำนาจตัดสินใจ 7 ใน 10 รายจากการสำรวจในเอเชีย แปซิฟิค มีอุปกรณ์พกพามากกว่า 2 ประเภท สำหรับใช้ติดต่อธุรกิจ เทคโนโลยีทำให้ผู้บริหาร เกิดความเสมอภาคกัน ผู้จัดการในเกาหลีและไทย มีอัตราส่วนการใช้อุปกรณ์พกพาสูงที่สุด (ผู้บริหารประมาณ 87 เปอร์เซ็นต์ ที่มีอุปกรณ์พกพามากกว่า 2 เครื่อง)
ผู้จัดการในแถบเอเชียแปซิฟิคเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าการอนุญาตให้พนักงานทำงานแบบโมบิลิตี้ช่วยปรับปรุงวิธีการทำงานให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และสร้างสมดุลให้กับชีวิตส่วนตัว โดยผู้จัดการในประเทศไทย 64 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าการอนุญาตให้ทำงานแบบโมบิลิตี้ช่วยสร้างสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัวมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ผู้บริหารแทบทั้งหมดที่ทำสำรวจ จะออกจากออฟฟิศเร็วขึ้นถ้ามีเทคโนโลยีมารองรับช่วยให้ทำงานเสร็จเร็วขึ้น และสองในสามจะใช้เวลาที่ได้มานั้นอยู่กับครอบครัวมากขึ้น
แซนดร้า อึง รองประธาน ไอดีซี เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า “โมบิลีตี้ เป็นเรื่องพื้นฐานเพื่อเปลี่ยนแปลงวิถีการทำธุรกิจขององค์กรข้ามชาติและองค์กรขนาดใหญ่ ในขณะที่การใช้เทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่รวมถึงความพร้อมของตลาดยังมีความแตกต่างกันอยู่ในแต่ละประเทศในภูมิภาค งานวิจัยของอวาย่าเป็นสิ่งยืนยันว่าเทคโนโลยีระบบสื่อสารเคลื่อนที่มีความสำคัญมากขึ้นสำหรับธุรกิจ อีกทั้งยังให้ประโยชน์ในหลายแง่มุม นอกจากนี้ ผู้นำด้านระบบสื่อสารอัจฉริยะเช่น อวาย่า ซึ่งเป็นผู้นำเสนอระบบโครงสร้างพื้นฐานรวมสำหรับการส่งข้อมูลและเสียงผ่านระบบงานแบบมีสายและไร้สาย จะยังคงผลักดันให้เกิดการใช้งานระบบดังกล่าวอย่างแพร่หลายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค”
การศึกษายังชี้ให้เห็นว่าการขาดประสิทธิภาพ และขาดระบบการสื่อสารแบบองค์รวม เป็นสิ่งที่ทำลายประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 88 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่า ในเวลาที่ต้องการติดต่อกับบุคคลจำเป็นต้องทำในทันทีทันใด อย่างไรก็ดี หากขาดเทคโนโลยีระบบสื่อสารแบบองค์รวมที่ประกอบด้วยอีเมล์ โทรศัพท์มือถือ และโทรศัพท์ออฟฟิศ บนแพลตฟอร์มเดี่ยว บรรดาผู้จัดการในภูมิภาคนี้ 28 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในอินเดีย 36 เปอร์เซ็นต์ ฮ่องกง 34 เปอร์เซ็นต์ ฟิลิปปินส์ 47 เปอร์เซ็นต์ จำเป็นต้องส่งอีเมล์สรุปข้อความที่ได้คุยทางโทรศัพท์ หรือโทรหาผู้รับว่าได้ส่งอีเมล์ให้แล้ว มากกว่าหนึ่งครั้งในแต่ละวัน นอกจากนี้แล้ว สองในสามของการสำรวจผู้จัดการในภูมิภาคนี้ยอมรับว่าพลาดนัดหมายการประชุมธุรกิจสำคัญ คำร้องขอของลูกค้า หรือโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เนื่องจากไม่สามารถโทรหรือส่งอีเมล์ไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องได้
คุณสุทัศน์ คงดำรงเกียรติ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อวาย่า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ผลสำรวจสะท้อนถึงกลยุทธ์ของอวาย่าในการพัฒนาบริการระบบรวมด้านสื่อสารเคลื่อนที่แบบฟิกซ์ สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยขยายระบบสื่อสารอัจฉริยะเพื่อการใช้งานได้ครอบคลุมทุกที่ และช่วยยกระดับการสื่อสารทางธุรกิจ” พร้อมกับกล่าวเสริมว่า “การที่สามารถติดต่อด้วยหมายเลขเพียงหมายเลขเดียวเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับยุคการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ที่สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นในลักษณะกระจัดกระจายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพนักงานอยู่กันคนละที่ ซึ่งบริการระบบโทรศัพท์สำหรับองค์กรเอ็นเตอร์ไพร์ซ จะช่วยให้พนักงานที่ทำงานอยู่นอกออฟฟิศ สามารถใช้ระบบสื่อสารระบบเดียวกันกับในออฟฟิศได้ ได้รับความสะดวกในเรื่องของสถานที่ การเข้าถึงเทคโนโลยี และอุปกรณ์สื่อสาร เอื้อต่อการตอบสนองลูกค้าหลายๆ รายได้ ภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมาตรฐานเดียว”
การเชื่อมต่อแบบเบอร์เดียว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับองค์กรในการจัดการการสื่อสารให้กับพนักงานทั้งจากภายในและนอกออฟฟิศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบสื่อสารแบบองค์รวม และแอพพลิเคชั่นระบบโทรศัพท์ไอพี ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงเสียง อีเมล์ ข้อความแฟ็กซ์ ผ่านหมายเลขเดียว อีกทั้งยังสามารถประสานงานกับเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าจะอยู่ในออฟฟิศ ระหว่างเดินทาง หรือว่าอยู่ในไซต์งานที่ห่างไกล ซึ่งจากข้อเท็จจริงที่ได้จากการศึกษาภายในที่จัดทำโดยอวาย่า เกี่ยวกับพนักงานขายของอวาย่า 1,700 คนทั่วโลก กับผลที่ได้รับจากการใช้แพลตฟอร์มใหม่ด้านระบบสื่อสารแบบองก์รวม เปิดเผยให้เห็นว่า พนักงานดังกล่าวมีผลิตผลในการทำงานเพิ่มขึ้นถึง 6 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มขึ้นอย่างแทบไม่น่าเชื่อ คือสูงถึง 25,500 วันต่อปี!
ปัจจุบันอวาย่า กำลังเดินสายโรดโชว์ในแถบภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เพื่อเผยแพร่ผลสำรวจสภาพแวดล้อมการทำงานแบบโมบายเพื่อธุรกิจในเอเชียแปซิฟิค (Asia Pacific Business Mobility Survey) เพื่อให้ความรู้กับนายจ้าง ในประเด็นเกี่ยวกับ การนำเทคโนโลยีระบบสื่อสารที่ดีกว่ามาใช้ สามารถช่วยองค์กรให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ โซลูชั่นระบบโมบิลิตี้ของอวาย่า เอื้อต่อการใช้งานที่ครอบคลุมในวงกว้าง และเจาะลึกในรายละเอียด ซึ่งแตกต่างจากโซลูชั่นอื่นๆ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์อวาย่า www.avaya.com/mobility
เกี่ยวกับ อวาย่า
อวาย่า อิงค์ เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านออกแบบ จัดสร้างและบริหารเครือข่ายด้านการสื่อสาร ที่รองรับการใช้งานจากจากบริษัทธุรกิจมากกว่า 1 ล้านแห่งทั่วโลก รวมทั้งให้บริการกับบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ FORTUNE 500 ถึงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์และด้วยการเน้นที่ธุรกิจตั้งแต่บริษัทขนาดใหญ่จนถึง รายย่อย ส่งผลให้ อวาย่า เป็นผู้นำตลาดโลกในด้านระบบโทรศัพท์ ไอพี ที่มีความปลอดภัยและวางใจได้ ตลอดจนเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นและบริการด้านการสื่อสารต่าง ๆ ทางบริษัทยังมุ่งมั่นที่จะผลักดันโปรแกรมแอพพลิเคชั่นธุรกิจเพื่อรองรับการใช้งานในยุคที่การสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลรวมเป็น หนึ่งเดียว และด้วยบริการระดับโลกที่ครบครัน ทาง อวาย่าได้ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเน็ตเวิร์กที่มีอยู่ ในปัจจุบัน และอนาคตเพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่เหนือกว่าสำหรับข้อมูลเ พิ่มเติมดูที่เว็บไซต์ อวาย่า: http://www.avaya.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บุษกร ศรีสงเคราะห์
บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด
โทรศัพท์ : 02-655-6633 อีเมล์ : busakorns@apprmedia.com
วาเนสซ่า อึง
อวาย่า สิงคโปร์ โทรศัพท์ : +65 6872 8691
อีเมล์ : vpkng@avaya.com--จบ--

แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ