เมื่อเร็วๆ นี้ ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้จัดงานครบรอบ 88 ปี และได้มีการเปิดตัวศูนย์กลางการเรียนรู้ทักษะผู้ประกอบการแห่งอนาคต โดยก่อตั้งโปรเจค " 88 SANDBOX " Startup Ecosysterm แห่งใหม่ ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อสร้างสตาร์ทอัพไทยสู่ตลาดโลก เปิดกว้างรับทุกเพศทุกวัย ครอบคลุมทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รศ.เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ได้เปิดเผยว่า "การเรียนการสอนในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียน ฝึกให้มีการปฏิบัติงานจริง ลองผิดลองถูกเพื่อให้เกิดความมั่นใจ และมีอิสระทางความคิด โครงการนี้เราต้องการสร้างสตาร์ทอัพให้ประเทศไทยและให้กับโลก มีธุรกิจใหม่ๆที่เป็นนวัตกรรมและใส่ใจสิ่งแวดล้อม การมี "88 Sandbox" ขึ้นมาจะช่วยเพิ่มกำลังคนที่มีคุณภาพเป็นกำลังสำคัญให้กับประเทศ และช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เพื่อจะค้นพบว่าทุกคนก็เป็นเถ้าแก่ได้ จึงมีห้องปฏิบัติการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยเฉพาะการพัฒนาการโครงการใหม่ๆ
ด้าน รศ.ดร.พิภพ อุดร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ มธ. ได้เผยถึงรูปแบบ 88 Sandbox ว่าเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้ ทดลอง พัฒนา เพื่อมอบระบบนิเวศ ต่อยอดไอเดียปั้นสตาร์ทอัพใหม่ๆ ขึ้นมา เริ่มในปี พ.ศ. 2565 โปรเจคนี้แบ่งออกเป็น 5 ส่วนหลักๆ เริ่มต้นจาก skill Space คือการยกระดับทักษะผู้ประกอบการผ่าน Learning Platform และIdea Market โดยเปิดกว้างให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วประเทศที่มีไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ในการประกอบธุรกิจใหม่ๆมานำเสนอ และเข้าร่วมเพื่อฝึกฝนทักษะที่จำเป็นโดยมีทั้ง Platform ออนไลน์และออฟไลน์ จากนั้นจะมีการจัด Expro อีเวนต์สตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุด เพื่อให้มาเจอกัน มาสร้างทีม หาไอเดียร่วมกัน มีการจับคู่คนที่เหมาะสมกัน ส่วนที่ 3 Pre-Hackathon การอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้ทุกคนมั่นใจว่าไอเดียที่มีได้รับการเทรนอย่างใกล้ชิดจากพี่เลี้ยง(mentor) ซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีประสบ การณ์ โดยจะมีการลงมือทำจริง จากนั้นทุกทีมจะต้องเข้าสู่เวทีการแข่งขันที่เรียกว่า Hackathon ซึ่งจะมีนักลงทุน CEO สตาร์ทอัพ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจต่างๆเข้าร่วมอาทิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) 0R และองค์กรธุรกิจผู้สนับสนุนรายอื่นๆ เพื่อจะดูว่าไอเดีย หรือธุรกิจของคนรุ่นใหม่ทีมไหนสามารถเป็นจริงได้
"สำหรับทีมที่ผ่านการคัดเลือก ทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะให้เงินลงทุนเริ่มต้นและเข้าไปถือหุ้น หาพี่เลี้ยงธุรกิจให้ โดยใช้พื้นที่ 88 Sandbox ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสตาร์ทอัพครบครันที่เราเรียกว่า Forest for Unicorn เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยไปสู่ระดับยูนิคอร์น นอกจากนี้ยังมีองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่มาเป็นพาร์ทเนอร์ อาทิ OR เพื่อพัฒนาธุรกิจและร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพด้วย ส่วนนักเรียนระดับมัธยมที่เข้าร่วมโปรเจค สามารถใช้ผลงานนี้เข้ายื่นต่อมธ.ในรอบ Porfolio ได้ ถ้าเป็นนักศึกษาของมธ.ในโปรเจค ที่สามารถระดมทุนได้ ทำยอดขายได้จริง เราเทียบโอนหน่วยกิตให้ 15 หน่วยกิต"
มาที่ คุณจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR หนึ่งในองค์กรที่เข้ามาสนับสนุน เปิดเผยถึงความร่วมมือในโปรเจคนี้ว่า "เรามีช่องทางให้ทั้งสถานีบริการน้ำมันเกือบ 2,000 สาขา คาเฟ่อเมซอน 3,500 แห่งและอีก 9 ประเทศ พร้อมเปิดรับสตาร์ทอัพ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ มาทดลองลงมือในพื้นที่ของเรา และพร้อมสนับสนุนทั้งทางด้านเงินทุนและกระบวนการ ร่วมเป็นผู้ลงทุน เริ่มต้นจากก่อตั้งสตาร์ทอัพ และพัฒนาไประดับยูนิคอร์น โดยทาง OR มี 2 ช่องทางที่ให้การสนับสนุน คือ มธ.สร้างสตาร์ทอัพใหม่ส่งเข้ามา เรามีบริษัทที่ร่วมทุนชื่อ ORZON มีกองทุนเริ่มต้นให้ 25-50 ล้านดอลลาร์ เป้าหมายภายใน 10 ปี จะต้องมีสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น 10 ราย อีกช่องทางหนึ่งคือสตาร์ทอัพที่กำลังเติบโต OR จะเข้าลงทุนโดยตรง อย่างกรณีบริษัท Flash Express เราร่วมลงทุนจนกลายเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทยแห่งแรก เพราะเราเห็นว่าเรามีหน้าที่สร้างโอกาส สร้างการพัฒนา ให้ทุน เพื่อพาเขาเติบโต เชื่อว่าสตาร์ทอัพสามารถค้นคิดวิธีการใหม่ ย่อมจะเกิดตลาดใหม่ๆ"
และสุดท้าย นายเรืองโรจน์ พูนผล หรือ กระทิง ฉายา "The Godfather of Thai Startup" หนึ่งในทีมพี่เลี้ยงของ "88 SANDBOX " ประเมินถึงโอกาสที่สตาร์ทอัพสัญชาติไทยจะพัฒนาไปสู่ระดับยูนิคอร์น มูลค่าธุรกิจ 1,000 ล้านดอลลาร์ ว่า อีก 10 ปีต่อจากนี้ถือว่าเป็น "ยุคทอง" ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปีหน้าประเทศไทยอาจมียูนิคอร์นเพิ่มขึ้นอีก 1-2 บริษัท
"บิล เกตส์ บอกว่าปีหน้าน่าจะพ้นโควิด ปีหน้าผมคิดว่าจะเป็นช่วง Golden age ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะทำยังไงให้พวกที่เป็นสตาร์ทอัพ มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้เขาได้ฝึกฝน จะช่วยให้สตาร์ทอัพไทยก้าวกระโดด และช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีมาก เพราะปีหน้าจะมียูยิคอร์น สัญชาติไทยที่เข้าตลาดมูลค่าราว 20,000-30,000 ล้านดอลาร์ ตอนนี้เริ่มมีเงินทุนไหลเข้ามา ประเทศไทยมียังโอกาส เช่น อุตสาหกรรมการเกษตรและไบโอ"
โดยผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ "88 SANDBOX" Startup Ecosysterm สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/88Sandbox หรือที่ https://line.ee/27BMhAp ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป