ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด เป็น 'AA-(tha)' จาก 'A+ (tha)' และ คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ฟิทช์ยังได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันของบริษัท เป็น 'AA-(tha)' จาก 'A+ (tha)'
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสอดคล้องกับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของธนาคารแม่ซึ่งก็คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB (AAA(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) สามารถดูรายละเอียดได้จากประกาศอันดับเครดิต หัวข้อ 'ฟิทช์ปรับเพิ่มอันดับเครดิตของธนาคารกรุงไทยเป็น 'BBB+' และ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ https://www.fitchratings.com/site/pr/10184961
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ สะท้อนถึงความคาดหมายของฟิทช์ว่าธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูก ซึ่งโอกาสที่ KTB จะให้การสนับสนุนแก่ KTZ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้มุมมองดังกล่าวสะท้อนจากการที่ KTZ เป็นบริษัทลูกภายในกลุ่มเพียงบริษัทเดียวที่ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และมีการร่วมมือในการดำเนินธุรกิจกับ KTB เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ของธุรกิจหลักทรัพย์ให้กับลูกค้าของธนาคาร
แต่อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตของ KTZ ยังคงอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTB อยู่ 3 ระดับ ซึ่งมีระยะห่างจากธนาคารแม่มากกว่าบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นลูกของธนาคารรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์ และสะท้อนถึงการที่ KTB มีสัดส่วนการถือหุ้นใน KTZ ที่ 50% และผู้ถือหุ้นส่วนน้อยมีสัดส่วนการถือหุ้นในระดับที่มีนัยสำคัญ ส่งผลให้ความเชื่อมโยงกับธนาคารแม่มีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ในด้านการผสานการดำเนินงานและการควบคุมระหว่างกัน เมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นลูกของธนาคารรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับจากฟิทช์ นอกจากนี้การใช้ชื่อและเครื่องหมายทางการค้า (branding) ยังมีความเชื่อมโยงกับผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ฝั่ง
การพิจารณาโครงสร้างทางเครดิตของ KTZ ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการพิจารณาอันดับเครดิต แต่ผลการดำเนินงานของ KTZ มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะตลาดที่ดีขึ้นของภาคอุตสาหกรรมหลักทรัพย์
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ KTZ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทที่ 'AA-(tha)' เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
ฟิทช์อาจปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศของ KTZ ได้ หากฟิทช์เชื่อว่าโอกาสให้การสนับสนุนของ KTB แก่ KTZ ปรับตัวดีขึ้น โดยตัวอย่างของเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ เช่นในกรณีที่ KTB มีการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นมากกว่า 75% ขึ้นไปควบคู่ไปกับการมีอำนาจในการควบคุมหรือการเชื่อมโยงของการดำเนินงานที่มากขึ้น หรือ ในกรณีที่ KTZ มีบทบาทที่มีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างมากกับการดำเนินธุรกิจของธนาคารแม่
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTB น่าจะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ ในทิศทางเดียวกัน
ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTZ ถ้าฟิทช์มองว่ามีการลดลงในโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ เช่นกรณีที่ KTB มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน KTZ และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทอีกต่อไป หรือ ผลการดำเนินงานของในอนาคตของ KTZ หรือธนาคารแม่ มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญจนอาจนำไปสู่ การปรับลำดับความสำคัญของกลยุทธ์ ซึ่งอาจส่งผลให้มีความไม่แน่นอนในโอกาสที่ธนาคารแม่จะให้การสนับสนุนแก่บริษัทลูกในระยะยาว แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้น
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันของ KTZ จะได้รับผลกระทบในทิศทางเดียวกับการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ KTZ มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตของ KTB