เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จัดงาน "CPG Open Innovation Ecosystem Partner Day" เพื่อเปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญด้านงานวิจัยและนวัตกรรมระหว่าง เครือซีพีและพันธมิตรด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งจากทั่วโลกในฐานะ"เครือข่ายองค์กรพันธมิตรในระบบนิเวศนวัตกรรม" หรือ "Innovation Ecosystem Partner" ประกอบด้วย โครงการความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology Industrial Liaison Program - MIT ILP) Plug and Play Tech Center ผู้นำด้านเทคเวนเจอร์จากซิลิคอนวัลเลย์, Enterprise Singapore หน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านนวัตกรรมและสตาร์ทอัพของสิงคโปร์, สำนักงานนวัตกรรมและความร่วมมือ สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์แห่งประเทศจีน (Chinese Academy of Science Innovation Cooperation Center Bangkok), มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส (University of California, Davis) และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
โดยตัวแทนจากแต่ละหน่วยงานในเครือข่ายพันธมิตรฯ Innovation Ecosystem Partner และผู้บริหารจากซีพีเอฟ ซีพีออลล์ สถาบันปัญญาภิวัฒน์ ทรูดิจิทัลพาร์ค ได้ร่วมแลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์ แนวคิด และองค์ความรู้ด้านงานวิจัยและนวัตกรรมที่หลากหลายร่วมกัน โดยมี ดร.จอห์น เจียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวต้อนรับพร้อมร่วมเสนอมุมมองของเครือซีพีในการสร้างระบบนิเวศทางนวัตกรรม (Innovation Ecosystem) โดยได้รับความสนใจจากผู้บริหารและพนักงานในกลุ่มธุรกิจของเครือซีพี เข้าร่วมงานที่ทรูดิจิทัลพาร์ค และผ่านการประชุมออนไลน์อย่างคับคั่ง ทั้งนี้ความร่วมมือกับหน่วยงานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีจากทั่วโลกดังกล่าวนับเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ความมุ่งมั่นของเครือซีพีที่จะพาธุรกิจในเครือฯ ก้าวเข้าสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี
ดร.จอห์น เจียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม สอดคล้องกับนโยบายของเครือฯ ตามวิสัยทัศน์ของประธานคณะผู้บริหาร นายศุภชัย เจียรวนนท์ ที่จะนำพาเครือฯซีพีเข้าสู่การเป็นองค์กรด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพราะธุรกิจจากนี้จะต้องปรับตัวสู่รูปแบบที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น และต้องมีการนำงานวิจัยวิทยาศาสตร์มาสร้างนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ๆ ฉะนั้นจึงต้องยกระดับศักยภาพของเครือซีพีในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตเคียงคู่สังคมในหมุดหมายที่จะเป็น "ผู้นำด้านเทคโนโลยี" โดยขณะนี้เครือซีพีและบริษัทในเครือฯให้ความสำคัญในเรื่องของเทคโนโลยี Biotech, Foodtech, Cleantech, AI, Robotics & Automation, E-Commerce, Data Analytic, Data Security, Cloud Technology, และ Digital Media รวมถึงการให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนลงทุนในการพัฒนาบุคลากร ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาต่อไป
"การร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งระดับโลกทั้ง MIT, Plug and Play Tech Center, Enterprise Singapore และอีกหลายองค์กรที่อยู่ใน Innovation Ecosystem จะทำให้เครือซีพีบรรลุศักยภาพพอที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั้งในด้านการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนากับเครือข่ายองค์กรชั้นนำระดับโลกที่สามารถนำข้อมูลมาพัฒนาเทคโนโลยีให้เข้ากับธุรกิจของเครือฯ รวมไปถึงการมีตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมเพื่อเตรียมความพร้อมด้าน Digital Transformation ซึ่งจะทำให้เครือซีพีสามารถไปถึงเป้าหมายในการเป็น Tech Company"ดร.จอห์น เจียงกล่าว
ด้านนาย Shawn Dehpanah รองกรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปฟิก Plug and Play กล่าวว่า Plug and Play มีความยินดีอย่างมากที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำในด้านอุตสาหกรรมอาหาร ค้าปลีก การสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งเป็นหนึ่งในประเภทของธุรกิจที่ต้องปรับตัวอย่างมากกับการเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมมือร่วมกับเครือซีพีในการค้นคว้าและวิจัยเพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพธุรกิจให้แก่กลุ่มธุรกิจในเครือฯ และหวังอย่างยิ่งว่าความร่วมมือกับเครือซีพีในการขยายแพลตฟอร์มนวัตกรรมขององค์กรจะเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จที่สำคัญในการนำพาองค์กรไทยก้าวสู่ผู้นำแห่งเทคโนโลยีผ่านการปรับใช้ และเรียนรู้วิธีการทำงานกับสตาร์ทอัพได้
ด้าน Dr.Todd Glickman, Senior Director of Corporate Relations จากโครงการความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม (ILP) ของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ MIT กล่าวว่า เครือซีพีเป็นองค์กรเอกชนชั้นนำของไทยที่มีความหลากหลายทั้งในด้านของอุตสาหกรรม การพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี ซึ่งคณาจารย์และนักวิจัยของ MIT ที่มีประสบการณ์ความร่วมมือในการทำวิจัยร่วมกับกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่กว่า 240 โครงการทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมากในการเข้ามาร่วมมือกับเครือซีพีในครั้งนี้ โดยความร่วมมือระหว่างซีพีกับ MIT ในครั้งนี้จะเน้นที่การร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ในด้านของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำมาปรับประยุกต์ใช้ในธุรกิจของเครือฯ ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัยจาก MIT และพนักงานของเครือซีพี ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อองค์กรและประเทศต่อไป
นางสาว Charlene Young จาก Enterprise Singapore หน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านนวัตกรรมและสตาร์ทอัพของสิงคโปร์ กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของ Enterprise Singapore ที่มีโอกาสร่วมมือกับเครือซีพี ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจหลากหลายและมีชื่อเสียงระดับโลก ในการร่วมกันพัฒนานวัตกรรมและผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างศักยภาพให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของโลกในอนาคต