บมจ. บริทาเนีย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบชั้นนำพร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 21 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,953 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BRI"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. บริทาเนีย เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "BRI" ในวันที่ 21 ธันวาคม 2564
BRI เป็นบริษัทแกนนำหลัก (Flagship Company) ของกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI) ในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้ 4 แบรนด์ แบ่งตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและรูปแบบโครงการที่มีหลากหลายทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ได้แก่แบรนด์ เบลกราเวีย แกรนด์บริทาเนีย บริทาเนีย และไบรตัน บริษัทมีประสบการณ์พัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ตั้งแต่ปี 2559 รวมทั้งสิ้น 15 โครงการ และมีโอกาสในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ในทำเลที่มีการขยายตัวทั่วประเทศ
BRI มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 426.33 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 252.65 ล้านหุ้น โดยเสนอขายระหว่างวันที่ 7 - 9 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ถือหุ้นของ ORI ที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BRI (Pre-emptive Right) และ 13 - 15 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ลงทุนรายย่อยและผู้ลงทุนสถาบัน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 10.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 2,652.83 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 8,953 ล้านบาท การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 17.52 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือน หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.60 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. บริทาเนีย (BRI) เปิดเผยว่าการนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัทฯ และเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท ทั้งในแง่ของต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ความเชื่อมั่นของคู่ค้า และผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ โดย BRI มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาโครงการของบริษัท รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืม และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท
BRI มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือหุ้น 70.00% 2) กลุ่มครอบครัวจรูญเอก ถือหุ้น 2.49% และ 3) กลุ่มครอบครัวชลคดีดำรงกุล ถือหุ้น 0.70% และมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังจากหักภาษี และทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้คณะกรรมการจะพิจารณาโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เพื่อประโยชน์ของกิจการและผู้ถือหุ้น
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.britania.co.th และ www.set.or.th