บจก. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล (SCAP) โตไม่หยุด หลังลั่นปรับเป้าสินเชื่อรายย่อยปี 64 เป็น 5,000 ลบ. ล่าสุดผลงานก่อนจบปีทะยานเกินเป้าหมายเรียบร้อย ฟากผู้บริหาร วิชิต พยุหนาวีชัย ยิ้มรับผลงานทั้งปีว่าดีเกินคาด แม้เผชิญสถานการณ์โควิด ชูสินเชื่อมอไซค์ใหม่พระเอกแห่งปีดันพอร์ตสินเชื่อโตระเบิด ก้าวต่อไปเตรียมทะยานสู่ Tech Leasing เต็มตัว หมายมั่นปั้นมือปี 65 ต้องดีกว่าเดิม วางเป้าพอร์ตสินเชื่อโตไม่น้อยกว่า 160%
วิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บจก. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล หรือ SCAP (เอสแคป) เผยว่า หลังจากบริษัทฯได้ปรับเป้าหมายเซอร์ไพร์สตลาดสวนกระแสธุรกิจสินเชื่อรายย่อย จากเดิม 4,000 ล้านบาท สู่ 5,000 ล้านบาท ล่าสุดผลงานโค้งสุดท้ายปี 64 บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ได้เกินเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อย แม้สถานการณ์ตลอดทั้งปีต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด 19 อีกระลอก แต่บริษัทฯสามารถทำผลงานได้เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งสัดส่วนการเติบโตมาจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นหลัก โดยได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่บริษัทประเมินว่าจะขยายตัวในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ จากมาตรการคลาย Lock Down ของทางภาครัฐ ขณะเดียวกันประชาชนมีการฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจจึงทยอยฟื้นตัวคืนกลับมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป สนับสนุนความต้องการสินเชื่อที่เติบโตขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี
"เมื่อมองย้อนกลับไปดูภาพรวมตลอดทั้งปี ถือว่าเอสแคปทยอยปรับตัวได้ดีจากสถานการณ์โควิด อีกทั้งผลการดำเนินงานยังเติบโตได้เกินความคาดหมาย แม้ปรับเป้าหมายใหม่เราก็ยังคงเดินหน้าสร้างผลงานได้เติบโตเกินเป้า สิ่งหนึ่งที่เราพยายามปรับมาโดยตลอดคือเรื่องของเทคโนโลยี ซึ่งเชื่อว่าจะเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมไม่เว้นแม้แต่นอนแบงก์ และเราในฐานะผู้นำในการให้บริการด้านสินเชื่อรายย่อย จึงจำเป็นต้องพัฒนาและปรับปรุงระบบต่างๆเพื่อรองรับกระแสความเปลี่ยนแปลงทั้งเทคโนโลยีและผู้คน โดยเชื่อว่าความเป็น Tech Leasing จะนำพาองค์กรให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในอนาคต" นายวิชิต กล่าว
ขณะที่เป้าหมายถัดไปของบริษัทฯในปี 2565 พร้อมปล่อยสินเชื่อรายย่อยไม่น้อยกว่า 160% จากการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆและการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มกลับมาคึกคักในช่วงครึ่งหลังของปี ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับเป็นโอกาสอันดีต่อเศรษฐกิจไทยที่พร้อมเดินหน้าต่อ ขณะเดียวกันเอสแคปพร้อมสร้างผลประกอบการให้เติบโต เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นบริษัทจดทะเบียนที่นักลงทุนให้ความสนใจและเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2 ปีข้างหน้า