บมจ.โกลบอล คอนซูเมอร์ คว้าใบอนุญาตสกัดน้ำมันจากเมล็ด-ใบอนุญาตผลิตอาหารจากกัญชง จ่อเซ็น MOU พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ร่วมวิจัยสูตรผสมยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์สู่สากล หนุนศักยภาพการเติบโตแกร่ง ผู้บริหารส่งซิกพร้อมนำร่องส่ง Ready To Eat หลากหลายเมนู เสริฟความอร่อยผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-11 พันธมิตรหลัก ลุยตลาดทั่วประเทศทันที หลังรัฐไฟเขียวออกประกาศกฎหมายอย่างเป็นทางการ
นายนพพร ภัทรรุจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOCON ผู้นำการผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารและบรรจุภัณฑ์ เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯได้รับใบอนุญาตสกัดน้ำมันจากเมล็ดกัญชง (Hemp Seed Oil) พร้อมใบอนุญาตผลิตอาหารประเภทอาหารควบคุมเฉพาะ ได้แก่ เมล็ดกัญชง, น้ำมันจากเมล็ดกัญชง, โปรตีนจากเมล็ดกัญชง และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของเมล็ดกัญชง, น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือโปรตีนจากเมล็ดกัญชง (เฉพาะน้ำมันจากเมล็ดกัญชง) ที่ขึ้นทะเบียนอาหารไว้
ส่งผลให้สามารถสกัดน้ำมันจากเมล็ดกัญชง และผลิตอาหารที่มีส่วนผสมกัญชง ภายใต้ข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกสู่ตลาดได้ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาลงนาม MOU กับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตและสกัดสาร CBD จากกัญชง เพื่อร่วมวิจัยสูตรผสมผลิตภัณฑ์อาหารจากกัญชง ยกระดับมาตรฐานสู่สากล ต่อยอดศักยภาพการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
นายนพพร บอกเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์จากกัญชง โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมีแนวโน้มการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า ในปี 2570 ตลาดผลิตภัณฑ์จากกัญชงทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 18,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมนำร่องส่งผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน (Ready To Eat) หลากหลายเมนู เสริฟความอร่อยผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อ 7-11 ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก ลุยตลาดทั่วประเทศทันที หลังรัฐออกประกาศกฎหมายอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บมจ. โกลบอล คอนซูเมอร์ แบ่งธุรกิจเป็น 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1. ธุรกิจอาหารแปรรูปแช่แข็ง, อาหารกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน และผลไม้อบแห้ง สัดส่วน 61% ของรายได้ทั้งหมด, 2. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทต่างๆ สัดส่วน 32% ของรายได้ทั้งหมด, 3. ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม สัดส่วน 4% ของรายได้ทั้งหมด และ 4. ธุรกิจเทรดดิ้ง สัดส่วน 3% ของรายได้ทั้งหมด