- พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้นำด้านธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัย ปัจจุบันดูแลบริหารโครงการคอนโดมิเนียม-บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม รวมกว่า 270 โครงการ พื้นที่กว่า 14 ล้านตารางเมตร ตั้งแต่โครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และครอบคลุมไปยังทุกระดับราคา โดยหลายโครงการใช้บริการพลัสฯ มายาวนานกว่า 20 ปี สะท้อนความเชื่อมั่นและไว้วางใจของลูกค้า
- ปี 2564 พลัสฯ ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ แบ่งเป็นโครงการจากแสนสิริ 15 โครงการ และโครงการจากดีเวลลอปเปอร์อื่น ๆ อีก 22 โครงการ ส่งผลให้สัดส่วนการบริหารโครงการระดับพรีเมียมถึงซูเปอร์ลักซ์ซัวรี่ เติบโตรวมกันกว่า 20%
- ชูจุดแข็งผู้เชี่ยวชาญด้าน Living Management ที่ให้บริการด้วยมาตฐานระดับสากล มืออาชีพทั้งด้านความปลอดภัย การอบรมเพิ่มทักษะบุคลากร การตรวจสอบและควบคุมมาตรฐานการปฏิบัติงาน การดูแลวิศวกรรมอาคารและการตรวจสอบงานระบบ การจัดกิจกรรมในโครงการและสร้างคอมมูนิตี้ที่น่าอยู่ รวมทั้งมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดงานบริการ
- พร้อมเดินหน้าแผนการยกระดับมาตรฐานสากลให้เหนือกว่ามาตรฐานการทำงานทั่วไป ให้ครบและครอบคลุมทุกด้านการอยู่อาศัย ด้วยความเข้าใจทุกความต้องการของลูกค้า พร้อมปรับตัวเคียงข้างดูแลลูกบ้านและผู้อยู่อาศัยในทุกสถานการณ์
นางสาวนฤมล อาภรณ์ธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารอาคารที่พักอาศัย บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมตอบโจทย์ทุกบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของพลัสฯ ในธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัย (Property Management Residential) ในปี 2564 ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยล่าสุดมีโครงการที่อยู่ในการดูแลกว่า 270 โครงการ รวมพื้นที่กว่า 14 ล้านตารางเมตร จากหลากหลายดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม แม้ว่าในปีนี้สถานการณ์โควิด-19 จะยังไม่สิ้นสุด แต่พลัสฯ สามารถดูแลอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้าน และออกมาตรการป้องกันและรับมือวิกฤตที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากลูกบ้านและผู้อยู่อาศัย ทำให้สามารถรักษาลูกค้าเดิมและขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้ตามเป้าหมาย ด้วยจุดแข็งของพลัสฯ ที่เป็นบริษัทที่ทำงานได้ตามมาตรฐานระดับสากล มีกระบวนการทำงานที่โปร่งใสชัดเจน มีทีมตรวจสอบคุณภาพที่แข็งแกร่ง พนักงานมีความตั้งใจให้บริการอย่างมืออาชีพในทุกขั้นตอนงานบริหารโครงการ มีความเข้าใจลูกค้าทั้งผู้อยู่อาศัยชาวไทยและชาวต่างชาติ และมีประสบการณ์ดูแลโครงการตั้งแต่ในระดับซูเปอร์ลักซัวรี่และครอบคลุมในทุกระดับราคา พร้อมบริการเสริมที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สำหรับโครงการใหม่ในปี 2564 เป็นโครงการใหม่จากแสนสิริจำนวน 15 โครงการ และโครงการจากดีเวลลอปเปอร์อื่นๆ อีก 22 โครงการ สำหรับโครงการจากดีเวลลอปเปอร์อื่น ได้แก่ คอนโดมิเนียม 17 โครงการ ประกอบด้วย เดอะ รีเซิร์ฟ เกษมสันต์ 3, เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์, เออร์บาโน ราชวิถี, เดอะ ไพรเวซี่ พระราม 9, ศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานี แบริ่ง, ศุภาลัย ริเวอร์เพลส, ไลฟ์ อโศก-พระราม 9, เซียล่า ศรีปทุม, พาร์ค รามอินทรา, คิว ชิดลม-เพชรบุรี, ไอดิโอ คิว สยาม ราชเทวี, สาธร เฮ้าส์, เดอะ ฮัดสัน, ดีฟายน์ บาย เมย์แฟร์ สุขุมวิท 50, เมย์แฟร์ เพลส สุขุมวิท 50, วาลเด้น อโศก, ทรู ทองหล่อ คอนโด และบ้านเดี่ยว 4 โครงการ ได้แก่ มัณฑนา-พระราม 9 ศรีนครินทร์, คาซ่า พรีเมี่ยม อ่อนนุช-วงแหวน, เดอะมาร์ค เอ็กซ์ควิซิท ราชพฤกษ์-จรัญสนิทวงศ์, จาวา เบย์ และทาวน์โฮม 1 โครงการ คือ อัยย์ ราชพฤกษ์
ซึ่งปี 2564 เป็นปีที่มีการเติบโตของสัดส่วนโครงการระดับพรีเมียมถึงซูเปอร์ลักซ์ซัวรี่ รวมกันกว่า 20% ผลงานดังกล่าวสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในความเป็นมืออาชีพด้านงานบริหารโครงการที่พักอาศัยของพลัสฯ ที่มีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ในทุกขั้นตอน ครบ 6 มิติของงานบริหารโครงการที่พักอาศัย 1) ด้านระบบการทำงานตามมาตรฐานสากล ISO 9001/2015 ด้วยระบบบริหารงานเพื่อการประกันคุณภาพ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่าง ๆ ได้รับการควบคุม โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ 2) ด้านความปลอดภัย ที่มีทีม Sansiri Security Inspection (SSI) ครูฝึกจากส่วนกลาง ช่วยฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รปภ.ประจำโครงการ และควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยอีกขั้น พร้อมเสริมการเดินตรวจลาดตระเวน 3) ด้านการบริการ โดยมีสถาบันภายใน PLUS Eduplex จัดอบรมทั้งการอัพสกิลและรีสกิลบุคคลากร ให้มีทักษะความสามารถที่พร้อมให้บริการได้อย่างมืออาชีพและตรงตามมาตรฐานที่บริษัทกำหนด รวมทั้งมีการต่อยอดทักษะความสามารถเพิ่มเติมนอกเหนือจากทักษะทางอาชีพตน เพื่อขยายบริการที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังเสริมด้วยทีมตรวจสอบคุณภาพภายในที่จะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจเช็คการทำงานอยู่สม่ำเสมอ ทำให้ลูกค้าวางใจได้ถึงมาตรฐานงานบริการของพลัสฯ 4) ด้านระบบวิศวกรรมอาคาร โดยมีทีมสนับสนุนจากส่วนกลางที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบระบบวิศวกรรม และ Preventive Maintenance ช่วยดูแลและยืดอายุเครื่องจักร ควบคุมค่าใช้จ่าย 5) ด้านคอมมูนิตี้ที่ดีและน่าอยู่ โดยมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์กฎระเบียบ มาตรการการดูแลต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวก ประสานงาน ดูแลทุกเรื่องการใช้ชีวิตในโครงการ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมให้กับลูกบ้านและผู้อยู่อาศัยในโครงการเพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดี 6) ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี มีการนำเทคโนโลยี AI และ IoT มาใช้ขยายบริการสู่การเป็นศูนย์กลางควบคุมสังเกตการณ์อัจริยะ ภายในชื่อ LIV-24 ดูแลความปลอดภัยในโครงการที่อยู่อาศัยได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เสริมความปลอดภัยอีกขั้นและดูแลงานระบบในอาคารให้ใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย โดยสามารถปรับรูปแบบบริการให้เหมาะสมกับแต่ละโครงการได้ นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นด้านการอยู่อาศัยเพื่อเป็นช่องทางการติดต่อและอำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านในโครงการ
ล่าสุด พลัสฯ ยังเพิ่งนำ 4 โครงการนำร่องที่เป็นอาคารคอนโดมิเนียม รับรางวัลอาคารโดดเด่นด้านความปลอดภัย Building Safety Awards (BSA) 2021 ที่จัดโดยสมาคมผู้ตรวจสอบอาคารร่วมกับสมาคมวิชาชีพการบริหารทรัพยากรอาคาร สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการอาคารด้านความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานขั้นสูงสุดระดับประเทศ ซึ่งพลัสฯ ยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการทำงานของบริษัท โดยเป้าหมายในปี 2565 คือการได้มาตรฐานสากลในด้านอื่นๆ ที่ครอบคลุมทุกมิติการอยู่อาศัย
"นับเป็นความภาคภูมิใจที่หนึ่งในธุรกิจหลักของพลัสฯ อย่างธุรกิจบริหารโครงการที่พักอาศัย ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจให้ดูแลคอนโด-บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม กว่า 270 โครงการจากหลายดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำ สะท้อนความเชื่อมั่นในประสบการณ์มากกว่า 25 ปีของพลัสฯ ซึ่งเราเป็นบริษัทฯ ไทยที่มีมาตรฐานระดับสากล และยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานให้ครอบคลุมการอยู่อาศัยในหลายด้านมากขึ้น เพื่อดูแลลูกบ้านและผู้อยู่อาศัยได้อย่างมืออาชีพในทุกสถานการณ์ และครบทุกมิติการใช้ชีวิต" นางสาวนฤมล กล่าว.