ก.ล.ต. ออกประกาศเพื่อเปิดโอกาสให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างและเข้าจดทะเบียนในตลาดรองได้ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุนให้ SME และ Startup สามารถระดมทุนได้ตามความเหมาะสมและความต้องการ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อลดภาระของกิจการ และมอบเป็นของขวัญในโอกาสขึ้นปีใหม่ ปี 2565
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศรองรับให้ SME และ Startup
ที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัดสามารถเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างได้ โดยผ่อนปรนหลักเกณฑ์ทั้งในตลาดแรกและตลาดรองเพื่อมิให้เป็นภาระกับ SME และ Startup แต่กิจการยังคงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญต่อผู้ลงทุน และเนื่องจากกิจการ SME และ Startup ยังอยู่ในช่วงการเติบโตทางด้านธุรกิจ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ากิจการขนาดใหญ่ จึงจะมีการจำกัดให้เฉพาะผู้ลงทุนบางประเภทที่สามารถเข้าลงทุนได้ โดยต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในการลงทุน รวมถึงมีฐานะในระดับหนึ่งที่สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า "การออกหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญในการเพิ่มเครื่องมือในการระดมทุนผ่านตลาดทุนให้กับ SME และ Startup ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ดำเนินนโยบายและผลักดันมาตรการส่งเสริม SME และ Startup ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นมา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งหลักเกณฑ์นี้จะมีการลดภาระและหน้าที่ในเรื่องหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้กับกิจการ เช่น การไม่กำหนดให้ต้องยื่นคำขออนุญาต และการไม่กำหนดให้ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้กิจการสามารถระดมทุนผ่านตลาดทุนได้โดยมีภาระค่าใช้จ่ายที่น้อยลง ก.ล.ต. จึงไม่กำหนดค่าธรรมเนียมใด ๆ เพื่อเป็นของขวัญวันปีใหม่กับกิจการ SME และ Startup ทุกแห่ง ที่ประสงค์จะเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น"
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 เป็นต้นไป