บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง (WPH) กางแผนปี2565 ตั้งเป้ารายได้กลุ่มลูกค้าทั่วไปโต 33% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ผลจากเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวทำให้มีผู้ใช้บริการทั้งคนไทย และต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริการตรวจโควิด-19 และเข้ารับการรักษาคึกคัก ทำให้ได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม ขณะที่โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จ.กระบี่ มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ฟาก "เชน เหล่าสุนทร" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุปีนี้จะเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มีปัจจัยหนุนเพียบ เดินหน้าสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมให้บริการได้ปี2566 จ่อรุกขยายธุรกิจ Health Care รูปแบบใหม่ หนุนอนาคตโตก้าวกระโดด
นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานในธุรกิจปี 2565 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้กลุ่มลูกค้าทั่วไปโต 33% เนื่องจากผู้ใช้บริการทั้งคนไทยและต่างชาติ มีจำนวนมากขึ้นหากเทียบกับปีก่อน หลังจากนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน การให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการรับรักษา โดยเฉพาะหลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการ และเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้มากขึ้นอย่างชัดเจน รวมทั้งโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง จังหวัดกระบี่ มีความสามารถในการสร้างรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะช่วยผลักดันการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้
"ปี 2565 บริษัทฯคาดว่ารายได้ จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่องจากปี 2564 ที่ได้สร้างรายได้ออลไทม์ ไฮไว้แล้ว เพราะมีปัจจัยสนับสนุนจากการมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่คู่แข่งธุรกิจในแต่ละพื้นที่มีจำนวนไม่มาก รวมทั้งการได้ฐานลูกค้าใหม่ ทั้งจากจังหวัดตรัง และกระบี่ โดยเฉพาะจากการรับฉีดวัคซีนโควิด-19 ตลอดจน อาคาร Wellness Center ที่เป็น One Stop Service มีการแยกผู้ป่วยออกจากอาคาร และผู้ใช้บริการมีความมั่นใจในความปลอดภัยว่าจะไม่มารับโรคเพิ่ม ทำให้มีผู้เข้ามาใช้บริการสูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้นสนับสนุนให้รายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นอยางมีนัยสำคัญ" นายเชน กล่าว
เขากล่าวอีกว่า ในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนไว้ประมาณ 500 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งจะนำมาลงทุนในการสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์สมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงการก่อสร้างงานฐานราก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าจะพร้อมให้บริการภายในปี 2566
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีการเตรียมแผนที่จะรุกขยายการลงทุนในธุรกิจ Health Care รูปแบบใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและเจรจากันพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ตาม การรุกขยายธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยสร้างรายได้และผลักดันการเติบโตในอนาคตได้อย่างก้าวกระโดด และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างมั่นคง