บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มั่นใจ เทรนด์อาหารเนื้อจากพืช หรือ Plant-Based meat จะเติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสำคัญของผู้ผลิตอาหาร จากจุดเด่นที่ตอบโจทย์คนกลุ่ม Flexitarian หรือกลุ่มมังสวิรัติยืดหยุ่น กลุ่มคนรักสุขภาพ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมดันแบรนด์ MEAT ZERO สู่การเป็นผู้นำตลาดเนื้อทางเลือกอันดับ 1 ของเอเชียและ Top 3 ผู้นำเนื้อทางเลือกของโลกภายใน 3-5 ปี พร้อมตั้งเป้าเปิดตัวใน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีภายในปีนี้
นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ได้ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ Plant Based Foods, the game changers for food industry ในงาน Health and Wellness : The trends and future potential of food industry โดยระบุว่า อาหารกลุ่มแพลนต์เบส จะเป็นสินค้าสำคัญสำหรับผู้ผลิตอาหารในอนาคต เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในกลุ่ม Flexitarian ที่ลดการกินเนื้อสัตว์ และกลุ่มรักสุขภาพ นอกจากนี้ การผลิตเนื้อจากพืช ยังดีต่อสุขภาพ และช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รวมถึงยังไม่มีข้อจำกัดด้านสวัสดิภาพสัตว์
อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญก็คือการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพราะนวัตกรรมเนื้อจากพืช จะช่วยรองรับการเติบโตของประชากรโลก ให้มีทางเลือกของอาหารมากขึ้น รวมถึงการที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาในอนาคตจะช่วยให้การพัฒนานวัตกรรมเนื้อจากพืชให้สามารถผลิตได้ง่าย มีรสอร่อย และรสสัมผัสที่เหมือนเนื้อสัตว์ยิ่งขึ้น
"ซีพีเอฟ มองว่าโปรตีนจากพืช เป็นเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน การเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้จะสอดรับกับกลยุทธ์ของบริษัทในการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม" นายบระสิทธิ์ กล่าว
ซีพีเอฟ ได้พัฒนาเนื้อจากพืช ภายใต้แบรนด์ MEAT ZERO โดยได้จับมือกับพาร์ทเนอร์จากหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอเมริกา และนำความรู้มาพัฒนานวัตกรรม "PLANT-TEC" เพื่อให้ได้เนื้อทางเลือกที่มีความเหมือนหรือดีกว่าเนื้อสัตว์ ทั้งลักษณะ รส กลิ่น จนถึงเนื้อสัมผัส และซีพีเอฟอยู่ระหว่างศึกษาการผลิตเนื้อทางเลือก ด้วยพืชชนิดต่างๆ เพื่อทดแทนการใช้ถั่วเหลืองเป็นหลัก เพื่อสร้างอาหารที่มีคุณค่าที่หลากหลายมากขึ้น
นายประสิทธิ์ได้กล่าวต่อว่า ซีพีเอฟ ตั้งเป้าหมายผลักดัน MEAT ZERO สู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยในปัจจุบัน ซีพีเอฟได้เริ่มขยายการส่งออกไปยังสิงคโปร์และฮ่องกง และในปีนี้ซีพีเอฟ มีแผนจะขยายตลาดเอเชีย เช่น จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี และจะผลักดันสินค้าเข้าสู่ตลาดอเมริกา และยุโรป เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์เนื้อจากพืช Top 3 ของโลก