คนไทยจำนวนมากป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับหู ทั้งที่ไม่ทราบสาเหตุ และมีเหตุจากการสัมผัสเสียงดังต่อเนื่อง เครียดจัดอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดเสียงรบกวนในหู แพทย์จุฬาฯ เผยแนวทางการรักษาและนวัตกรรมเครื่องช่วยฟังที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
"เวียนหัว บ้านหมุน มีเสียงดังในหูตลอดเวลา ความสามารถทางการได้ยินลดลง" เหล่านี้เป็นอาการส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ"หู" ซึ่งคนไทยจำนวนไม่น้อยกำลังประสบปัญหาอยู่ จากข้อมูลของ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อ 31 ธันวาคม 2563 ประเทศไทยมีผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินมากถึง 391,785 คน สูงเป็น อันดับ 2 รองจากผู้มีความบกพร่องทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย และกลุ่มเฟซบุ๊ก"ชมรมคนหูดับ เส้นประสาทหูเสื่อม" ที่มีสมาชิกกว่า 6,600 คนแล้ว
หลายโรคเกี่ยวกับหูเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุและยังไม่มีหนทางรักษาให้หายขาด หลายโรคมีสาเหตุจากพฤติกรรม อารมณ์ และสภาพแวดล้อมที่อาจหลีกเลี่ยงและป้องกันได้ หากมีอาการผิดปกติในการได้ยินแล้ว ควรรีบมาพบแพทย์แต่เนิ่นๆ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกทางและทันท่วงทีเพื่อเพิ่มโอกาสฟื้นประสิทธิภาพการได้ยินให้กลับมาอีกครั้ง และหากยังได้ยินเสียงต่างๆ เป็นปกติดีอยู่ ก็ควรใส่ใจดูแลหูให้ดีๆ
เข้าใจ "หู" ลดปัจจัยเสี่ยงหูพัง
"หู" เป็นอวัยวะสำคัญ มีหน้าที่หลักในการได้ยินเสียงและการทรงตัวของร่างกายหากการทำงานของหูผิดปกติย่อมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บั่นทอนคุณภาพชีวิตทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล จิตตก ท้อแท้
ส่วนประกอบของหู
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พญ.ภาณินี จารุศรีพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคทางหู ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับส่วนประกอบของหูว่ามี 3 ส่วน ได้แก่
ผศ.พญ.ภาณินีกล่าวว่าปัจจัยเสี่ยงอันดับ 1 ที่ทำให้ประสาทหูเสื่อมคือการสัมผัสเสียงที่ดังมากๆ อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน นอกจากนี้ยังเกิดจากศีรษะได้รับการกระแทกบ่อยๆ รวมถึงการรับประทานยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการได้ยินและการทรงตัว
4 โรคเกี่ยวกับหูที่พบบ่อย
ผู้ป่วยโรคทางหูที่มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีอาการที่แบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลักๆ คือ
ทั้งสองกลุ่มอาการบ่งชี้โรคทางหูที่พบได้บ่อย 4 โรค ได้แก่
"คนไข้ที่ได้ยินเสียงรบกวนในหูซึ่งเป็นเสียงที่ไม่มีความหมาย เช่น เสียงวี้ด เสียงซ่า เสียงคล้ายจิ้งหรีด ฯลฯ กลไกการได้ยินปกติเกิดจากเมื่อเสียงภายนอกเข้ามาในหู หูชั้นในจะเปลี่ยนพลังงานเสียง ให้เป็นกระแสประสาทส่งไปยังสมองส่วนที่เกี่ยวกับการได้ยิน สมองจะรับรู้และแปลความหมายเสียงนั้น ถ้าหูชั้นในมีการเสื่อมสภาพจะไม่สามารถเปลี่ยนพลังงานเสียงให้เป็นกระแสประสาทที่ดีได้ ทำให้สมองส่วนที่เกี่ยวกับการได้ยินได้รับกระแสประสาทที่มีผิดเพี้ยนหรือไม่ครบถ้วนไป เมื่อสมองรับรู้ว่าเกิดความผิดปกติขึ้น สมองจะทำงานเพิ่มขึ้น (Hyperactivity) เพื่อแก้ปัญหา ส่งผลให้เกิดการสร้างเสียงรบกวนสะท้อนกลับมาให้ได้ยิน ซึ่งบางคนได้ยินเสียงรบกวนดังในหูตลอดเวลา บางคนได้ยินเป็นครั้งคราว" ผศ.พญ.ภาณินี อธิบาย
"ในเวลาที่มีความเครียด เหนื่อย พักผ่อนน้อย หรืออยู่ในที่เงียบๆ เช่น เวลานอน อาจจะทำให้เสียงรบกวนในหูดังเพิ่มขึ้น" นอกจากนี้ยังมีเสียงดังในหูอีกแบบหนึ่งซึ่งดังเป็นจังหวะและบุคคลรอบข้างอาจได้ยินหรือตรวจพบเสียงรบกวนด้วย ได้แก่ เสียงดังในหูตามจังหวะชีพจรซึ่งเกิดจากโรค ที่เกี่ยวกับเส้นเลือด หรือเสียงที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณหูมีการกระตุก ซึ่งผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจรักษา
4. ประสาทหูดับฉับพลัน
เป็นอีกหนึ่งโรคทางหูที่สร้างความวิตกกังวลแก่ผู้ป่วยอย่างมาก มักจะเกิดกับหูข้างใดข้างหนึ่ง ที่ได้ยินเสียงเบาลงทันทีในระยะเวลา 72 ชั่วโมง ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด มีทั้งทฤษฎีเกี่ยวกับการอุดตันของหลอดเลือดเส้นเล็กๆ ที่ไปเลี้ยงที่หูหรือเกิดจากไวรัสโจมตีเส้นประสาทเกี่ยวกับการได้ยิน ถ้ามีประวัติศีรษะกระแทกพื้น อาจเกิดการฉีกขาดของโครงสร้างในหูชั้นใน ผู้ป่วยไม่ถึง 10% เกิดจาก เนื้องอกในหูส่วนที่เกี่ยวกับการได้ยินและการทรงตัว ผู้ที่ประสาทหูดับฉับพลันมีโอกาสหายได้ถ้ามา พบแพทย์โรคหูและได้รับการรักษาในเวลาที่รวดเร็ว
การวินิจฉัยและแนวทางการรักษาโรคเกี่ยวกับความผิดปกติในหู
สำหรับขั้นตอนการรักษา ผศ.พญ.ภาณินี อธิบายว่าจะเริ่มจากการสอบถามลักษณะอาการและ ซักประวัติโดยละเอียดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค จากนั้นแพทย์ก็จะทำการตรวจหู คอ จมูก และหากมีปัญหาการได้ยินอาจมีการตรวจการได้ยิน ตรวจดูการทำงานของหูชั้นกลาง ถ้าคนไข้มีอาการเวียนศีรษะหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัวก็จะต้องมีการตรวจระบบประสาทและระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
"แนวทางการรักษาแตกต่างกันไปขึ้นกับโรคของผู้ป่วย สำหรับการรักษาผู้ป่วยประสาทหูดับฉับพลันคือการให้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ยากิน การฉีดยาเข้าเส้นเลือดหรือฉีดเข้าไป ในหู จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ยินให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียง การรักษาทางเลือกเสริมซึ่งมีให้บริการในโรงพยาบาลบางแห่งคือการใช้ตู้อัดแรงดันออกซิเจน 100% (Hyperbaric Oxygen Therapy)"
ผศ.พญ.ภาณินี เน้นว่า "ถ้าเริ่มรู้ตัวว่ามีปัญหาการได้ยินลดลงหรือมีเสียงรบกวนในหู ควรรีบมาพบแพทย์" โรงพยาบาลจุฬาฯ ให้บริการ "เครื่องช่วยฟัง" ครบวงจร พร้อมประสาทหูเทียม ผู้ที่ประสาทหูเสื่อมมีความสามารถได้ยินเสียงลดลงแต่ยังไม่ถึงขั้นหูหนวก สิ่งที่ช่วยได้คือเครื่องช่วยฟังซึ่งทำหน้าที่เหมือนลำโพงที่รับเสียงเข้ามาแล้วขยายพลังงานเสียงเข้าไปในหูชั้นในได้มากขึ้น ถ้าประสาทหูเสื่อมและมีเสียงรบกวนในหูด้วย การใส่เครื่องช่วยฟังจะทำให้เสียงรบกวนลดลงได้ เครื่องช่วยฟังมีหลายราคา ตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสน นอกจากนี้ยังมีเครื่องช่วยฟังที่ฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะ และการผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมสำหรับผู้ที่หูหนวก 2 ข้าง ทำให้สามารถกลับมาได้ยินเสียงได้อีกครั้ง
"ผู้ที่มีปัญหาด้านการได้ยินจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง ทางโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้บริการ "เครื่องช่วยฟัง" ที่ครบวงจร มีการติดตามคนไข้และดูแลเครื่องช่วยฟังให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัดฝังเครื่องช่วยฟังชนิดต่างๆ ในกะโหลกศีรษะ"
ผศ.พญ.ภาณินีกล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจุบันกำลังศึกษาวิจัยเรื่องเสียงรบกวนในหูว่ามีผลกระทบทำให้คนไข้เกิดอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลมากน้อยเพียงใด โดยศึกษาวิจัยในกลุ่มคนไข้โรคหูที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
"ผลการวิจัยจะช่วยทำให้เราสามารถแนะนำคนไข้ได้ว่าเมื่อมีความวิตกกังวลและความเครียดจากเสียงดังในหู ควรจะได้รับการดูแลอย่างไร เป็นการยกระดับการดูแลคนไข้ให้ครอบคลุมมากขึ้น" ผศ.พญ.ภาณินี กล่าวเสริมทิ้งท้ายว่า "การดูแลคนไข้ ไม่ใช่แค่การตรวจรักษาและสั่งยาเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ การอธิบายให้คนไข้รู้ถึงอาการป่วย การดำเนินของโรค และแนวทางการรักษา เพื่อให้คนไข้มีความเข้าใจ ดูแลตนเองได้อย่างเหมาะสม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น"
หูไม่ได้ยิน ประสาทหูเสื่อม รักษาที่ไหนดี :
-ฝ่ายโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ชั้น 10 อาคาร ภปร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
-คลินิกในเวลาราชการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 16.00 น. โทรศัพท์ 0-2256-5223-27
-คลินิกนอกเวลาราชการ วันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.30 - 20.00 น. และวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 08.00 - 12.00 น. โทรศัพท์ 0-2256-5193
ช่องทางการสื่อสารแชร์ประสบการณ์ทางออนไลน์สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาโรคทางหู
Facebook: ชมรมคนหูดับ เส้นประสาทหูเสื่อม