กลุ่มทิสโก้ มุ่งมั่นสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งอย่างต่อเนื่อง จึงเดินหน้าจัดแคมเปญ 'Fighting Cancer' ร่วมรณรงค์ในวันมะเร็งโลก ภายใต้ธีม 'Close the Care Gap: ปิดช่องว่าง สร้างโอกาส เข้าถึงการรักษามะเร็งด้วยนวัตกรรม' โดยหักรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งจากการขายผลิตภัณฑ์กองทุนรวมและประกัน สมทบทุนพัฒนางานวิจัยและนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งให้มีความก้าวหน้าต่อเนื่องเป็นปีที่ 5
นายเมธา ปิงสุทธิวงศ์ กรรมการอำนวยการ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า เนื่องในวันมะเร็งโลก (World Cancer Day) วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 กลุ่มทิสโก้ยังคงเดินหน้าจัดแคมเปญ Fighting Cancer ขึ้นต่อเนื่อง โดยใช้ธีม 'Close the Care Gap: ปิดช่องว่าง สร้างโอกาส เข้าถึงการรักษามะเร็งด้วยนวัตกรรม' ด้วยการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ถึงความเสี่ยงของโรคมะเร็ง และเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดผลกระทบจากมะเร็งร้าย ตลอดจนร่วมเป็นกำลังใจให้กับสถาบันการแพทย์ไทยในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งให้ก้าวหน้า และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่คนไทยควรร่วมมือร่วมใจกันปิดช่องว่าง เพื่อทำให้ปัญหาโรคมะเร็งและช่องว่างในการเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งในสังคมไทยลดลง (Act Now, Together We Can Create Change.)
"ปัจจุบัน โรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก และเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตของคนไทย ซึ่งกลุ่มทิสโก้เชื่อว่า โรคมะเร็งจะสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ และถ้าคนไทยสามารถสร้างนวัตกรรมการรักษาขึ้นมาเองได้ จะช่วยให้ต้นทุนการรักษาลดลงได้อย่างมากเพราะไม่ต้องนำเข้า นั่นหมายถึง การช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงการรักษาโรคมะเร็งด้วยนวัตกรรมให้กับคนไทย และเพิ่มโอกาสในการรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้มากขึ้น" นายเมธา กล่าว
จากข้อมูลสถิติของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มะเร็งยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 21 ปี โดยในปี 2563 คนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งและเนื้องอกทุกชนิด จำนวน 84,697 คน หรือวันละกว่า 232 คน ขณะที่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ในปี 2563 มีประชากรโลกเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเฉลี่ยเกือบ 10 ล้านคน และหากทั่วโลกยังไม่ลงมือแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ภายในปี 2573 จะมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งมากกว่า 13.1 ล้านคนต่อปี ทั้งที่ในความเป็นจริงเกือบ 50% ของมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้ป่วยอยู่ในปัจจุบันนั้นสามารถป้องกันได้
ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนความก้าวหน้าในการพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งจนสามารถเอาชนะโรคร้ายได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น แคมเปญ Fighting Cancer ในปีนี้ กลุ่มทิสโก้จึงขอมีส่วนร่วมด้วยการนำส่วนหนึ่งของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายผลิตภัณฑ์กองทุนรวมและประกันภัย สมทบทุนบริจาคให้กับองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งต่อเนื่อง โดยในปี 2565 นี้ นับเป็นปีที่ 5 แล้ว ขณะที่แคมเปญในปี 2564 มียอดบริจาครวม 8.46 ล้านบาท และรวมตลอดระยะเวลา 4 ปี กลุ่มทิสโก้สามารถร่วมสมทบทุนบริจาครวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวนกว่า 20 ล้านบาท
"ความก้าวหน้าของนวัตกรรมทางการแพทย์เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเสมือนหนทางที่จะช่วยให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความหวังว่าจะสามารถรักษาโรคมะเร็งให้หายขาดได้ สำหรับประเทศไทย การพัฒนานวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็งนั้นยังต้องใช้ทั้งเวลาและเงินทุนอีกจำนวนมาก กลุ่มทิสโก้จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายความหวังให้กับคนไทย โดยตั้งเป็นเป้าหมายที่จะร่วมสนับสนุนสถาบันการแพทย์ไทยในการผลักดันให้เกิดการค้นคว้าจนพบแนวทางการรักษาที่ได้ผลดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพขึ้นในราคาที่ถูกลง" คุณเมธา กล่าว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มทิสโก้ในฐานะที่ปรึกษาด้านการวางแผนการเงินและแผนประกันสุขภาพที่ดี จึงมุ่งมั่นให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่สังคม ให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการวางแผนการเงิน เพื่อรับมือกับภาระทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ควบคู่ไปกับการสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยด้านนวัตกรรมการรักษาเพื่อขับเคลื่อนโอกาสของคนไทยในการเข้าถึงการรักษาที่ดีไปพร้อมๆ กัน