กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--กันตนา กรุ๊ป
กำลังเป็นข่าวไปทั่วโลกว่าจะเป็นศาสดาองค์ใหม่ตามรอยพระพุทธเจ้าสำหรับลามะหนุ่มจากประเทศเนปาล ทีมงานรายการ “เรื่องจริงผ่านจอ” ไม่รอช้าบุกไปถึงเนปาลเพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ โดยเป็นรายการเดียวที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้เข้าไปเก็บภาพในระยะใกล้ๆ และจับภาพของลามะหนุ่มตลอด 24 ช.ม. พร้อมทั้งได้โอกาสสัมภาษณ์ทุกคนในครอบครัว และซักถามข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับที่มาของการนั่งสมาธิของลามะหนุ่มองค์นี้ ที่กินเวลายาวนานถึง 6 เดือน 6 สัปดาห์ ผ่านมา จนสร้างความอัศจรรย์ให้ผู้คนทั่วโลก
ตั้ว-ศรัณยู วงศ์กระจ่าง พิธีกรรายการ “เรื่องจริงผ่านจอ” เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ธ.ค.นี้ รายการเรื่องจริงผ่านจอ จะพาคุณผู้ชมไปเจาะลึกชีวิตของลามะหนุ่มเนปาล ซึ่งทางรายการได้รับโอกาสเป็นพิเศษในการเข้าไปเก็บภาพอริยบทของลามะหนุ่มตลอดทั้ง 24 ชั่วโมงเป็นรายการแรกอีกด้วย เนื่องจากพวกเขาเชื่อใจว่าทางทีมงานของเราเป็นชาวพุทธ เพราะได้รับการรับรองจากพระอาจารย์นิรันด์ พระไทยในประเทศเนปาลที่เป็นผู้นำทางพาทีมงานของเราไปถ่ายทำนั่นเอง ซึ่งข้อมูลที่เราได้รับจากการลงพื้นที่พบว่า มีความแตกต่างจากข่าวที่ปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์หรือแม้แต่อินเตอร์เน็ต
จากภาพและข้อมูลที่เราได้ ปรากฏว่าลามะหนุ่มนั่งอยู่กับที่ตลอดทั้งคืนท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเย็นประมาณ 13 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่ลุกไปไหน ไม่กินอาหาร หรือแม้กระทั่งการไปเข้าห้องน้ำ ชาวเนปาลและคนต่างถิ่นกว่าหนึ่งพันคน ต่างเดินทางมาเยี่ยมชมลามะหนุ่มนี้ทุกๆ วันเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้า แต่พวกเขาก็มีโอกาสได้เห็นลามะหนุ่มไกลๆ ในระยะหนึ่งร้อยเมตรเท่านั้น และคณะกรรมการก็มีมติว่าจะเพิ่มแนวรั้วขยายอออกไปอีก 5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ลามะหนุ่มได้รับการรบกวนไปมากกว่านี้ และช่วงเวลาที่ทุกคนต่างรอคอยก็คือการแสดงอภินิหารของลามะหนุ่ม ซึ่งพี่ชายของเขาเล่าให้ฟังว่า ทุกๆ สิบโมงเช้า จะมีแสงสว่างปรากฏขึ้นบนบริเวณนิ้วมือข้างซ้ายขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ โดยไม่มีคำตอบหรือเหตุผลใด ๆ มาอธิบายได้ และกล้องของทีมงาน “เรื่องจริงผ่านจอ” สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์นี้เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน
ถนน (TARN NAM HANG). ที่มุ่งหน้าสู่เมืองพาราแห่งนี้ ยังคงเป็นเส้นทางลูกรังและมีความยากลำบากในการเดินทางค่อนข้างมาก ระยะทางที่ห่างจากเมืองกาฏมาณฑุเพียง 150 กิโลเมตร แต่กลับใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์นานกว่า 6 ชั่วโมง ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้ว เมืองๆ นี้แทบจะถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก เพราะจะมีน้ำท่วมขังตลอดเส้นทาง
แต่ถึงแม้ว่าน้ำจะท่วมถึงอกของลามะหนุ่มองค์นี้ แต่เขาก็ไม่เคยลุกออกจากสมาธิแต่อย่างใด ตลอดระยะเวลา 6 เดือน 6 สัปดาห์ผ่านมา ลามะหนุ่มยอมพูดกับคนภายนอกเพียงสามครั้งเท่านั้น ครั้งแรกเขาพูดกับพี่ชายแท้ ๆ ของเขาว่า "ขอให้พี่ชายกลับบ้านไปเถิด ไม่ต้องห่วงเพราะเขาตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ตรงสถานที่แห่งนี้แล้ว มิเช่นนั้นตอนกลางคืนอาจจะมีอันตรายจากเสือก็เป็นได้” ครั้งที่สอง เขาพูดกับกลุ่มกบฏ (LATTI MHAO) ซึ่งบังคับให้เขาลุกขึ้นโดยใช้ปืนขู่ ลามะหนุ่มได้กล่าวตอบกลับไปว่า "สิ่งที่เราต้องการจากการนั่งสมาธิในครั้งนี้ ก็คือเราต้องการความสงบสุขที่จะเกิดขึ้นในประเทศเนปาลนั่นเอง” หลังจากประโยคนั้นกลุ่มกบฏก็จากไป และไม่กลับมา รบกวนลามะหนุ่มอีกเลย
และครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อฝูงชนชาวเนปาลต้องการให้พี่ชายของลามะช่วยสัมภาษณ์ให้ว่าเขาต้องการเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปหรือไม่ ลามะหนุ่มตอบปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่า "ไม่อยากให้ทุกคนเรียกเราว่าพระพุทธเจ้า เราเพียงแต่เจริญรอยตามวิถีทางของพระพุทธองค์เท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่ามาเรียกเราว่าพระพุทธเจ้าอีก" หลังจากจบประโยคนั้น ลามะหนุ่มก็ไม่พูดอีกต่อไปจนถึงปัจจุบันนี้
อย่างไรก็ตาม ทีมงานของรายการ “เรื่องจริงผ่านจอ” ก็สามารถได้ภาพที่บันทึกขณะที่ลามะหนุ่มได้กล่าวประโยคสุดท้ายนั้นเอาไว้ได้ด้วย และสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับทีมงานรายการ “เรื่องจริงผ่านจอ” อย่างมากก็คือ พี่ชายของลามะ ได้อุทิศตนเพื่อต้องการที่จะดูแลลามะหนุ่มคนนี้ตลอดเวลา เขาพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้น้องชายของเขานั่งสมาธิตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยไม่กินอาหารและไม่ดื่มน้ำเลยตลอดทั้ง 6 ปีที่จะถึงนี้ ซึ่งพี่ชายและคนในครอบครัวทุกคนเชื่อมั่นว่า ลามะหนุ่มจะสามารถทำได้สำเร็จ
ภาพเหตุการณ์ที่ทีมงานรายการ “เรื่องจริงผ่านจอ” เดินทางไปถ่ายทำ ณ สถานที่จริงที่เมืองพารา ประเทศเนปาล และแสงสว่างที่ปรากฏขึ้นบริเวณมือข้างซ้ายของลามะหนุ่มอย่างน่าอัศจรรย์ในทุกๆ สิบโมงเช้า จะถูกนำมาเผยแพร่ในรายการ “เรื่องจริงผ่านจอ” ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคมนี้ เวลา 22.25 น. ทางช่อง 7
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : นิลธรา มะเดชา,สุขกมล งามสม
โทรศัพท์ 0 2691 6302-4, 0 22744961-2
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--