นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวทางเท้าถนนสรงประภาชำรุดและทรุดตัวหลายจุด ทั้งยังมีรถจักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้าว่า ทางเท้าบริเวณซอยสรงประภา 11/1 ถึงวัดสีกัน ในพื้นที่เขตดอนเมือง เป็นทางเท้าที่ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2550 ซึ่งพื้นที่จะอยู่ใกล้กับบริเวณริมแนวเขื่อน ก่อสร้างขึ้นเพื่อให้ประชาชนใช้ทางเท้าสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก แต่เนื่องด้วยลักษณะทางกายภาพของพื้นที่อยู่ใกล้กับแนวเขื่อน ทำให้ฐานโครงสร้างของทางเท้าทรุดตัวไปตามกาลเวลา รวมถึงทางเท้าดังกล่าวผ่านการใช้งานมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี อีกทั้งยังมีการใช้ทางเท้าผิดประเภท เช่น การขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า การตั้งร้านจำหน่ายอาหารบนทางเท้าเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ทางเท้าดังกล่าวชำรุดและมีสภาพคล้ายกับลูกคลื่น
อย่างไรก็ตาม สำนักการโยธา กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งลงพื้นที่สำรวจสภาพปัญหา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอขอจัดสรรงบประมาณการปรับปรุงทางเท้าตลอดทั้งเส้นทาง คาดจะได้รับงบประมาณและสามารถดำเนินการปรับปรุงทางเท้าดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในปี 2565 รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนใช้ทางเท้าอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้ทางเท้าดังกล่าวในการสัญจร หรือออกกำลังกาย
สำหรับทางเท้าในพื้นที่อื่น ๆ กรุงเทพมหานครได้เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบมาตรฐานทางเท้าโดยมีมาตรการตรวจสอบผิวจราจร ทางเท้าและไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่รับผิดชอบทุกวัน ตามแผนการออกซ่อมปกติและแผนการตรวจสอบตามวงรอบในทุก ๆ 15 วัน เพื่อซ่อมบำรุงทางและไฟฟ้าสาธารณะที่อยู่ในความรับผิดชอบให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน หากตรวจพบสภาพผิวจราจร หรือทางเท้าชำรุด ไฟฟ้าส่องสว่างดับ หรือระบบควบคุมไฟชำรุดเสียหาย จะเร่งจัดหน่วยซ่อมเข้าดำเนินการทันที ส่วนกรณีถนน หรือทางเท้าชำรุดจากการทำงานของหน่วยงานสาธารณูปโภคอื่น ๆ เช่น กฟน. รฟม. กปน. หรือฝาท่อของหน่วยงานสาธารณูปโภคชำรุด ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทาง จะเร่งซ่อมแซมเบื้องต้นและแจ้งหน่วยงานสาธารณูปโภคเข้าซ่อมแซมและแก้ไขต่อไป
นายนันทพงศ์ แก้วศรี ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ ลงพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันจับปรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้าในพื้นที่เขตดอนเมืองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริเวณซอยสรงประภา 11/1 ถึงวัดสีกัน เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางเท้าในการสัญจร