หากพูดถึงตำแหน่งงานที่บริษัทต่างๆ เปิดรับตำแหน่งงานมากที่สุด ผนวกจากผลสำรวจสายงานขายและการตลาดนับว่าอยู่ในอันดับท็อป 5 ที่มีความต้องการสูงต่อเนื่องมาตั้งแต่วิกฤตโควิด ซึ่งปัจจัยหนึ่งมาจากการขับเคลื่อนธุรกิจต้องใช้แรงงานในสายนี้เพื่อกระตุ้นยอดขายและกิจกรรมทางธุรกิจให้ดำเนินต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า "มนุษย์เงินเดือน" หรือ "คนทำงานรุ่นใหม่" ในยุคดิจิทัลมีการปรับตัวและพัฒนาทักษะเพื่อให้ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการตลาดแรงงานมากขึ้น ภายหลังเศรษฐกิจประเทศไทยและทั่วโลกชะลอตัวมาจนถึงวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการทำธุรกิจในวงกว้าง ผู้ประกอบการต่างรัดเข็มขัดและการจ้างงานมีการตัดสินใจจากนายจ้างที่มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น คุณสมบัติของคนทำงานในสายงานขายและการตลาดที่เป็นที่ต้องการสูง คือ การมีความสามารถและทักษะที่หลากหลาย (Multi-Skill) ยิ่งรู้รอบด้าน ทำงานได้หลากหลาย ยิ่งได้เปรียบ ทั้งด้านการนำเสนอสินค้า และการติดต่อกับลูกค้าในหลากหลายช่องทาง หลากหลายแพลตฟอร์ม ทำให้แรงงานยุคนี้ต้องพัฒนาทักษะให้มีความเชี่ยวชาญในสายงานนั้น ๆ รวมถึงพัฒนาทักษะด้านต่างๆ มาเสริมการทำงาน เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าและทันต่อโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป
สอดคล้องกับผลการสำรวจของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ประจำปี 2565 จากทิศทางและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ได้ดำเนินการสำรวจและจัดอันดับตลาดแรงงาน 10 อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ ดังนี้ อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 20.16% ซึ่งสายงานขายและการตลาดนับว่ามีความสำคัญและมีความต้องการสูงต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน จากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ทำให้บทบาทของการขายและการตลาดมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค นอกจากนี้ผลการสำรวจ 10 อันดับ อาชีพมาแรงแห่งปีของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย สายงานขายและการตลาดเป็นกลุ่มอาชีพมาแรง ได้แก่ งานขาย, งานพัฒนาธุรกิจ, งานการตลาดดิจิทัล, งานอีคอมเมิร์ซ และงานการตลาด
จากสถานการณ์ความต้องการแรงงานในสายงานขายและการตลาดที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่องโดยสายงานดังกล่าวเติบโตต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีปัจจัยบวกที่เข้ามาสนับสนุนเป็นด้านเทคโนโลยี ซึ่งตลาดงานต้องการบุคลากรที่มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยี และแพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจ และการสื่อสารเพื่อนำเสนอและส่งมอบสินค้าและการบริการไปยังลูกค้า ดังนั้นแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรม ขอแนะนำให้แรงงานพัฒนาทักษะด้านนี้และมีการอัปเดตความรู้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้ หากแรงงานสามารถพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาจะเป็นการพลิกจากปัจจัยลบมาเป็นปัจจัยบวกให้คุณสามารถได้เปรียบคู่แข่งขันในตลาดได้ นอกจากทักษะด้านเทคโนโลยีแล้ว ทักษะการสื่อสารและทักษะการนำเสนอยังเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่แรงงานต้องพัฒนา เพราะช่องทางการขายสินค้าไม่ได้มีแค่ออนไลน์ แต่ยังมีลูกค้าอีกกว่าครึ่งยังใช้บริการซื้อสินค้าจากหน้าร้าน พนักงานขายจึงมีความสำคัญที่ต้องพัฒนาบุคลิกภาพ ทักษะความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการเพื่อสร้างความประทับใจและสร้างยอดขายได้อย่างมืออาชีพ
หัวใจสำคัญอีกประการที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ค่าตอบแทน (ค่าจ้าง) จากการเปลี่ยนแปลงและสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา รวมถึงการคาดการณ์ในอนาคตที่ยากเกินคาดเดา หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการจูงใจพนักงานด้วยค่าตอบแทนในรูปแบบเงินพิเศษและคอมมิชชั่น ขณะเดียวกัน ท่ามกลางการแข่งขันสูงของแรงงานในสายนี้ ผู้สมัครงานก็ต้องพัฒนาทักษะของตัวเองในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ทักษะภาษา ทักษาด้านเทคโนโลยี และการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการหางานให้กับตนเอง
จากวิเคราะห์สายงานขายและการตลาดนี้ถือว่าเป็นสายงานที่มีการปรับเปลี่ยน โยกย้ายแรงงานอยู่ตลอดเวลาด้วยปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านธุรกิจและการแข่งขัน แต่อย่างไรก็ตาม นับเป็นสายงานที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่องอยู่มาโดยตลอด
ทั้งนี้ หากแรงงานต้องการเข้าสู่ตลาดงานและสร้างความก้าวหน้าในสายงานควรมีการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนาทักษะด้านภาษา นอกจากภาษาที่สองซึ่งส่วนใหญ่คือ ภาษาอังกฤษ เพราะเป็นภาษาสากล และต้องมีภาษาที่สาม เช่น ภาษาจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน และเกาหลี เป็นต้น รวมทั้ง ทักษะด้านเทคโนโลยี การใช้แอปพลิเคชันต่างๆ และการเสริมสร้างทักษะแบบหลากหลาย และทักษะต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน เพื่อการก้าวสู่ตลาดงานได้อย่างมั่นใจและรักษาความมั่นคงในอาชีพตามสายงานได้ต่อไป