ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดตัว Galaxy S22 Ultra สมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดในกาแลคซี่ ซึ่งมาพร้อมกับ S Pen ในตัวเครื่อง การถ่ายภาพและวิดีโอแบบ Nightography และแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานข้ามวัน
นายทีเอ็ม โรห์ ประธานธุรกิจ โมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า "ซัมซุงมุ่งมั่นที่จะผลักดันและก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง โดย Galaxy S22 Ultra ถือเป็นการรวมสุดยอดฟีเจอร์ที่ดีที่สุดจากสมาร์ทโฟนสองรุ่นสุดไอคอนิกของซัมซุง ทั้งความสามารถและประสิทธิภาพที่ไม่เหมือนใครของ Note series และกล้องระดับโปรที่หลายคนต่างชื่นชอบของ S series มาไว้ในเครื่องเดียว เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งนี่ถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนเพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับอุตสาหกรรมนี้"
Galaxy S series ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ซัมซุงเคยมีมา
ครั้งแรกของซัมซุงกับการนำ S Pen ที่หลายคนชื่นชอบมาไว้ในตัวเครื่อง Galaxy S series โดย S Pen รุ่นนี้ มาพร้อมกับความเร็วและการตอบสนองที่ดีที่สุด ด้วยความหน่วงที่ลดลงถึง 70%[1] ทำให้ขีดเขียนหรือวาดรูปบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคย โดย S Pen ทำให้ Galaxy S22 Ultra เป็นมากกว่าแค่สมาร์ทโฟน เพราะสิ่งนี้ถือเป็นการเปิดประตูสู่การสร้างสรรค์และการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่ไม่เคยมีสมาร์ทโฟนที่ไหนทำได้
ในด้านดีไซน์สุดพรีเมี่ยมของ Galaxy S22 Ultra โดดเด่นด้วยการจัดวางเลนส์กล้องที่ผสานรวมกับกรอบโลหะอันเพรียวบางอย่างลงตัว พร้อมตัวเครื่องที่ทำจากกระจกอันหรูหราแต่แข็งแกร่ง และผิวสัมผัสด้านแบบ Haze finish ที่
เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับขอบตัวเครื่องลายเส้นและมุมอันเฉียบคม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Galaxy Note series
ถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน
เมื่อใช้ Galaxy S22 series ผู้ใช้จะได้ภาพสวยจบหลังกล้องทันทีที่กดปุ่มถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือวิดีโอ กลางวันหรือกลางคืน ถ่ายจากกล้องหน้าหรือกล้องหลัง เพราะด้วยฟีเจอร์ Nightography ที่มาพร้อมพิกเซลเซนเซอร์ขนาด 2.4 ไมโครเมตร ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่สมาร์ทโฟนซัมซุงเคยมี[2] ทำให้เลนส์กล้องสามารถจับแสงและรายละเอียดของภาพได้มากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยเลนส์ Super Clear Glass ขั้นสูงใน Galaxy S22 Ultra ยังจะช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืนได้อย่างคมชัดไม่มีแสงแฟลร์ รวมถึงอีกหนึ่งฟีเจอร์วิดีโอ อย่าง Auto Framing ที่จะช่วยจัดเฟรมของวิดีโอให้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าคนในภาพจะอยู่คนเดียวหรือ 10 คนก็ตาม[3]
กล้องของ Galaxy S22 Ultra ไม่เพียงแต่เป็นกล้องที่ดีที่สุด แต่ยังเป็นกล้องที่ฉลาดที่สุดของซัมซุงอีกด้วย เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ อัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพของ AI ใหม่ ที่มอบความสามารถในการซูมได้มากถึง 100 เท่า[4] รวมถึงโหมด Portrait ที่ทำให้ทุกภาพถ่ายดูสวยงามเป็นธรรมชาติราวกับถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ
ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ใช้จะเป็นช่างภาพมือสมัครเล่นหรือมืออาชีพ เมื่อมี Galaxy S22 Ultra ก็เพียงพอแล้วต่อการถ่ายภาพให้สวยงามอย่างที่ต้องการ โดย Galaxy S22 series ทุกรุ่น สามารถบันทึกภาพในรูปแบบ RAW ได้สูงถึง 16 บิต พร้อมปรับแต่งเพิ่มเติมได้ภายหลังผ่านแอปพลิเคชัน Expert RAW[5] ที่มีชุดเครื่องมือแบบครบครันติดตั้งมาพร้อมกับตัวกล้อง และเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานแบบเดียวกับกล้อง DSLR ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่า ISO และความเร็วชัตเตอร์ (Shutter speed) เพื่อเพิ่มความมืดหรือความสว่าง พร้อมปรับสมดุลย์แสงขาว (White balance) หรือโฟกัสวัตถุด้วยตนเองได้ตามต้องการอีกด้วย
พลังและประสิทธิภาพอันเหนือชั้น
Galaxy S22 Ultra ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับวิถีการทำงานอันทรงประสิทธิภาพ และเช่นเดียวกันสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในตระกูล Galaxy S22 series สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเซ็ต 4 นาโนเมตร ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (Artificial Intelligence) และ ML (Machine Learning) อันล้ำหน้า นอกจากนี้ ยังมี Wi-Fi 6E ที่เร็วกว่า Wi-Fi 6[6] ถึงสองเท่า ทำให้ผู้ใช้สามารถเต็มอิ่มไปกับการเล่นเกม สตรีมคอนเทนต์ หรือการทำงานได้อย่างเต็มที่[7] บนแบตเตอรี่อันทรงพลังที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานข้ามวัน[8] จากการชาร์จอย่างเต็มที่เพียงครั้งเดียว รวมถึงรองรับการชาร์จเร็ว 45 วัตต์ ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 นาที หลังจากการชาร์จเพียง 10 นาที[9] เท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นการดูหรือทำคอนเทนต์ รับรองได้เลยว่าผู้ใช้จะดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การใช้งานหน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.8 นิ้ว[10] และค่าความสว่างสูงสุดที่ 1,750nits ซึ่งจะทำให้ทุกภาพเต็มเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดกว่าที่เคยได้ นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยี Vision Booster ยังจะช่วยให้หน้าจอของ Galaxy S22 Ultra คงความสว่างได้ตลอดทั้งวัน ด้วยการปรับค่าความสว่างตามแสงรอบตัวให้โดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ว่าจะใช้งานที่ร่มหรือแดดจ้าก็สามารถรับชมคอนเทนต์ได้อย่างชัดเจนเต็มที่
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสานต่อความมุ่งมั่นของซัมซุงที่ต้องการมอบประสิทธิภาพและประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค ซัมซุงจึงได้เตรียมอัพเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์[11] บน Galaxy S22 series สูงสุดถึง 4 เจเนอเรชัน เพื่อให้กาแลคซี่แฟนหลายล้านรายทั่วโลกสามารถใช้งานสมาร์ทโฟนได้ยาวนานขึ้น โดยที่ไม่พลาดระบบการรักษาความปลอดภัยเวอร์ชันล่าสุด พร้อมทั้งฟีเจอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือ
สิ่งน่าตื่นเต้นอื่นๆ อีกมากมาย โดยซัมซุงกำลังเดินหน้าขยายแนวคิดนี้ไปยังผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับการดูแลอย่างเต็มที่เมื่ออยู่ภายใต้กาแลคซี่อีโคซิสเต็ม
มั่นใจในด้านความปลอดภัยด้วย Samsung Knox Vault
Galaxy S22 series ได้รับการดูแลด้านความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์ม Knox Vault พร้อมยกระดับระบบปฏิบัติการและหน่วยความจำให้สามารถคัดแยกข้อมูลอันละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็น รหัสผ่าน ไบโอเมตริกซ์ หรือบล็อกเชนคีย์ ออกจากระบบปฏิบัติการหลักของสมาร์ทโฟนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งด้วยแดชบอร์ดและค่าความชี้วัดระดับความเป็นส่วนตัวของ One UI จะทำให้ผู้ใช้สามารถทราบได้ว่าแอปพลิเคชันใดกำลังเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวและกล้องสมาร์ทโฟน เพื่อให้ตัดสินใจอนุญาตหรือปฏิเสธแต่ละแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดายในที่เดียว โดย Galaxy S22 series ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ด้านความปลอดภัย อย่างสถาปัตยกรรมไมโคร ARM (ARM micro architecture) ซึ่งจะช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่พุ่งเป้ามายังระบบปฏิบัติการและหน่วยความจำบนสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งาน
เชื่อมต่ออย่างลื่นไหล ภายใต้กาแลคซี่อีโคซิสเต็ม
นอกจาก Galaxy S22 series แล้ว ซัมซุงยังได้เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ อย่าง Galaxy Tab S8 ซึ่งประกอบด้วย GalaxyTab S8 | S8+ | S8 Ultra รวมถึงการอัพเดตฟีเจอร์สำหรับ Galaxy Watch4 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเชื่อมต่อรองรับทุกด้านของชีวิตอีกด้วย
Samsung Galaxy S22 Ultra พร้อมเปิดให้จองแล้วตั้งแต่วันนี้ โดยมาในตัวเลือก 4 สี อย่าง สีดำ Phantom Black สีขาว Phantom White สีเขียว และสีใหม่ล่าสุด อย่าง สีแดงเบอร์กันดี[12] สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s22-ultra/pre-order/