กุมภาพันธ์เป็นเดือนที่มีแต่กลิ่นอายของความรัก ความห่วงใย และมิตรภาพ ไม่ว่าจะเป็นความรักของคนหนุ่มสาว ความรักฉันเพื่อน ความรักที่มีต่อคนรอบข้าง หรือความรักความห่วงใยที่มีต่อสังคมโดยรวม และคงจะดีไม่น้อยหากเราได้ร่วมแบ่งปันความรักให้กับนักเรียนยากไร้ที่ด้อยโอกาสเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นได้มีอนาคตที่สดใสด้วยการร่วมมอบทุนการศึกษากับมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) ที่เปิดรับบริจาคทุนการศึกษาประจำปีการศึกษาใหม่ 2565 จนถึง 30 มิถุนายน ศกนี้
นายสรรเพชร นิลรัตน์ กรรมการผู้จัดการมูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) เผยว่า "เดือนกุมภาพันธ์ถือเป็นโค้งสุดท้ายก่อนปิดรับสมัครนักเรียนทุนโครงการต่าง ๆ ประจำปีการศึกษาใหม่ 2565 ซึ่งปัจจุบันมีนักเรียนมากกว่า 10,000 คน จากกว่า 1,200 โรงเรียน ทั่วประเทศ ส่งใบสมัครเข้ามาขอรับทุนการศึกษา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทุนการศึกษาของมูลนิธิกำลังเร่งสรุปจำนวนนักเรียนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนผ่านการคัดเลือกเพื่อรับทุนการศึกษาในโครงการต่าง ๆ ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้"
"ตลอดระยะเวลา 34 ปี ที่มูลนิธิ EDF ดำเนินงานมาด้วยความมุ่งมั่นในการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาสทั่วประเทศด้วยการมอบทุนการศึกษาและทำโครงการซีเอสอาร์ในโรงเรียนและชุมชนเพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ได้หลุดพ้นจากวังวนของความยากไร้ ได้มีโอกาสพัฒนาศัยภาพของตนเองให้ได้มีอนาคตที่สดใสสามารถเลี้ยงดูตนเองและช่วยเหลือครอบครัวได้ มูลนิธิได้ทำหน้าที่เป็นสะพานน้ำใจในการส่งต่อความช่วยเหลือด้านการศึกษาจากผู้บริจาคจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศไปยังเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาสจากสถาบันการศึกษากว่า 5,600 แห่ง ในพื้นที่ 61 จังหวัด ตั้งแต่ปีการศึกษา 2531-2564 เป็นจำนวน 398,500 คน และเพื่อสร้างความมั่นใจว่านักเรียนที่ขอรับทุนการศึกษาเข้ามาจะมีโอกาสได้รับความช่วยเหลือ ทางมูลนิธิเราได้เปิดรับบริจาคทุนการศึกษาล่วงหน้าประจำปีการศึกษาใหม่ 2565 มาตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2564 ที่ผ่านมา และในขณะนี้ (ตัวเลข ณ 5 กุมภาพันธ์ 2565) มีผู้บริจาคทุนการศึกษาเข้ามาแล้ว 4,738 ทุน แบ่งเป็นทุนการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 4,288 ทุน ทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย/อาชีวศึกษา 255 ทุน ทุนการศึกษานักเรียนพิการเรียนร่วมในชั้นเรียนปรกติ 114 คน ทุนนักเรียนกำพร้าจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 81 ทุน โดยมูลนิธิยังคงเปิดรับเงินบริจาคทุนการศึกษาประจำปีการศึกษาใหม่ 2565 ถึง 30 มิถุนายน 2565 นี้"
จากครอบครัวที่มีฐานะยากจนอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เด็กหญิงดารารัตน์ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านนาคู่ จังหวัดนครพนม คือหนึ่งในตัวอย่างของนักเรียนที่ขอรับทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 ในภาคการศึกษาหน้าเล่าว่า "บ้านหนูยากจน บางครั้งพ่อแม่มีรายได้แทบจะไม่พอกับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน และบางครั้งบ้านเราไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว แม้จะยากจนแต่หนูพยายามตั้งใจเรียนเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้หนูสามารถช่วยเหลือครอบครัวเมื่อหนูโตขึ้นได้โดยหนูตั้งความหวังว่าจะเป็นหมอในอนาคตค่ะทั้งนี้หลังจากเลิกเรียนและในช่วงวันหยุดหนูจะช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่างทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างถ้วยชาม นึ่งข้าว เป็นต้น"
เด็กชายภูมินทร์ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านสร้างแป้นดอนนาแพง จังหวัดขอนแก่น เล่าว่า "บ้านผมมีฐานะยากจน พ่อแม่มีอาชีพทำนาและรับจ้างทำงานทั่วไปแบบหาเช้ากินค่ำ มีรายได้ไม่แน่นอน บ้านเราอยู่กันหลายคน มีพ่อแม่ ตายาย พี่สาว และตัวผมเอง หลังจากกลับจากโรงเรียนผมจะช่วยทำงานทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ และเวลาไปโรงเรียนผมก็ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นหัวหน้าห้อง และร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรียน ผมชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์เพราะมีความสุขกับการทำโจทย์คณิตศาสาตร์และคิดเลข โตขึ้นผมอยากเป็นครูเพื่อจะได้สอนเด็ก ๆ ให้มีความรู้ ดังนั้นผมจึงอยากได้รับทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวโดยนำทุนการศึกษาจากผู้ใหญ่ใจบุญมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียน ซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการเรียนครับ"
เด็กชายปัญญาวุฒิ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านนาฝาย จังหวัดมหาสารคาม ขอรับทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 3 เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน และอาศัยอยู่กับยายและพ่อแม่ โดยอาชีพหลักของครอบครัวคือการทำนาและรับจ้างทั่วไปที่มีรายได้ไม่แน่นอน แต่ละวันปัญญาวุฒิจะตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเดินไปโรงเรียนที่ห่างไกลจากบ้านหลายกิโลเมตร ส่วนในช่วงวันหยุดก็จะตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม ช่วยงานบ้านทุกอย่าง และทบทวนบทเรียนต่าง ๆ ปัญญาวุฒิ เล่าว่า "ผมอยากได้ทุนการศึกษาเพื่อทำความฝันของผม และหากเป็นไปได้ผมอยากเรียนจบอย่างน้อยระดับปริญญาตรี และโตขึ้นผมอยากเป็นตำรวจเพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง สามารถทำให้ครอบครัวมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นครับ"
ผู้สนใจมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนที่ด้อยโอกาสร่วมกับมูลนิธิ EDF สามารถติดต่อได้ที่โทรศัพท์ 02 579 9209-11 อีเมล public@edfthai.org หรือเว็บไซต์ www.edfthai.org ทั้งนี้การบริจาคหรือทำกิจกรรมผ่านมูลนิธิสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามกฎหมาย
สำหรับมูลนิธิ EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลลำดับที่ 255 ของประเทศไทยที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 ในการมีส่วนร่วมพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยที่ด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาจนเป็นที่ยอมรับจากองค์กรทั้งในและต่างประเทศ และได้รับรางวัลต่าง ๆ อาทิ ประกาศนียบัตรรับรอง CAF International Vetted Organization จาก CAF International ที่มอบให้องค์กรสาธารณกุศลทั่วโลกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินงานครอบคลุมหลักธรรมาภิบาล เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่จดทะเบียนถูกต้อง รายงานการเงินประจำปีมีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ รวมทั้งเงินบริจาคและเงินสนับสนุนที่ส่งมอบให้มูลนิธินำไปใช้อย่างถูกต้องตรงตามวัตถุประสงค์เพื่อสาธารณกุศลอย่างแท้จริง รางวัลยอดเยี่ยมองค์กรพัฒนาเอกชนแห่งประเทศไทย ประเภทองค์กรขนาดใหญ่จากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ สถาบันคีนันแห่งเอเชีย และ เดอะ รีซอร์ส อัลลิอันซ์ รางวัลประกาศนียบัตรองค์กรสาธารณกุศลระดับ 5 ดาวจากการดำเนินงานและบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล มีประสิทธิภาพทางการเงิน และมีความโปร่งใส จากสมาคมกิฟวิ่ง แบค รางวัลกัลปพฤกษ์ทองคำจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นในฐานะหน่วยงานที่ทำความดีอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม และรางวัลคนดีต้นแบบคุณธรรมไทยจากสมาคมสหพันธ์คนพิการในประเทศไทย เป็นต้น