เจียไต๋ฟาร์ม โดยกลุ่มบริษัทเจียไต๋ เปิดตัวสุดยอดเมล่อนญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม 2 สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด "เมล่อนไอโกะ" และ"เมล่อนโมริซัง" คุณภาพคับลูก บรรจงปลูกด้วยความพิถีพิถัน ผสานเทคนิคเฉพาะของเจียไต๋ฟาร์มโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเมล่อนตัวจริงเสียงจริง พร้อมเปิดศักราชใหม่ขึ้นแท่นผู้นำที่บุกเบิกตลาดเมล่อนญี่ปุ่นพรีเมี่ยม หรือ King of Melon ในประเทศไทย
เจียไต๋ฟาร์ม ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาและส่งมอบผลิตผลทางการเกษตรใหม่ๆ สู่ตลาด เพื่อเพิ่มคุณค่าให้ผลิตผลและผลักดันวงการเกษตรของไทย ให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสชาติแห่งความมุ่งมั่น (Taste our Passion) จากการใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรและการปรับปรุงสายพันธุ์ การเพาะปลูก เพื่อให้ได้ผลิตผลที่สดใหม่ สะอาด และปลอดภัย ล่าสุดได้เปิดตัวเมล่อนไอโกะและโมริซัง ที่พร้อมวางตลาดให้ผู้บริโภคได้ลิ้มรสชาติความอร่อยแล้ววันนี้
นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวว่า "เจียไต๋ ไม่เป็นเพียงผู้นำด้านนวัตกรรมการเกษตรที่ส่งมอบปัจจัยการผลิตเท่านั้น เรายังเป็นผู้ส่งมอบโซลูชั่นทางการเกษตรที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ เมล่อนจากเจียไต๋ฟาร์ม ถือเป็นอีกหนึ่งในความมุ่งมั่นของเจียไต๋ในการยกระดับวงการเกษตรของไทยผ่านการส่งมอบคุณค่าจากเกษตรกรถึงมือผู้บริโภค โดยเจียไต๋ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์เมล่อนให้สามารถเพาะปลูกได้ในสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยมาตั้งแต่พ.ศ. 2531 ในศตวรรษใหม่ของการดำเนินธุรกิจของเจียไต๋ เราภูมิใจที่ได้เปิดตัวเมล่อนสองสายพันธุ์ใหม่ไอโกะและโมริซัง ที่ช่วยตอกย้ำเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์ของเจียไต๋ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ผ่านการส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งนอกจากจะสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรผ่านการแบ่งปันเทคนิคเพื่อยกระดับการเพาะปลูกเมล่อนแล้ว ยังทำให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประทานเมล่อนคุณภาพสูง ที่มีความปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านอาหารและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนต่อไป"
ดร. วัลลภัช แก้วอำไพ ประธานบริหารด้านกลยุทธ์องค์กร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวเสริมว่า "ที่เจียไต๋ฟาร์ม เราใส่ใจและพิถีพิถันในทุกๆ ขั้นตอนการเพาะปลูก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตผลทางการเกษตรคุณภาพสูง ซึ่งปีนี้ เมล่อน เจียไต๋ฟาร์ม ทั้ง 2 สายพันธุ์ใหม่เป็นหนึ่งในสินค้าไฮไลท์ เพราะเราได้คัดสรรสายพันธุ์ที่ดีเยี่ยมและปรับปรุงสายพันธุ์ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของการเพาะปลูกในไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งเมล่อนญี่ปุ่นพรีเมี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งรูปทรง ผิวสัมผัส และรสชาติที่อร่อยในราคาที่เข้าถึงได้ นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวระบบ iTrace ที่เพียงสแกนคิวอาร์โคด (QR Code) บนฉลากเมล่อน ผู้บริโภคจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงข้อมูล ล็อตการเก็บเกี่ยว รวมถึงแหล่งที่มาของเมล่อนแต่ละผลที่เลือกซื้อได้ ซึ่งนอกจากเมล่อนไอโกะและโมริซังตัวใหม่แล้ว เรายังมีเมล่อนมรกตและโกลเด้นสวีทที่ได้รับความนิยมในตลาดเมล่อนมาอย่างยาวนาน เป็นการตอกย้ำว่าเมื่อใดก็ตามที่อยากรับประทานเมล่อนญี่ปุ่นพรีเมี่ยม จะต้องนึกถึงเมล่อนเจียไต๋ฟาร์มที่เราพร้อมเสิร์ฟให้ผู้บริโภคโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงญี่ปุ่นแล้ว และในอนาคต เจียไต๋ฟาร์มยังมีแผนที่จะแปรรูปเมล่อนสู่สินค้าไลฟ์สไตล์อื่นๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย แสดงถึงศักยภาพของเจียไต๋ฟาร์มในการก้าวสู่การเป็น King of Melon ตัวจริงในไทย ทั้งนี้ เราต้องการสร้างเจียไต๋ฟาร์มให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในใจผู้บริโภค และไม่เพียงเมล่อนเท่านั้น เรายังมีผักและผลไม้สดคุณภาพสูงอีกกว่า 60 ชนิด ซึ่งมั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัย การันตีด้วยมาตรฐาน GAP, CODEX, GMP และ HACCP เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของเจียไต๋ฟาร์มในการส่งมอบผลิตผลทางการเกษตรที่สดใหม่และปลอดภัยถึงมือผู้บริโภคทุกคน"
เมล่อนโมริซัง เป็นเมล่อนสายพันธุ์ลูกครึ่งญี่ปุ่นเกรดพรีเมี่ยม ที่เจียไต๋ได้นำมาปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่เพาะปลูกง่าย เข้ากับสภาพแวดล้อมการเพาะปลูกในไทย เพื่อให้ผู้ปลูกสามารถปลูกได้ผลิตผลที่ดีมีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน ขนาดผล 1.5-2.0 กิโลกรัม โดยเมล่อนโมริซัง มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ผิวตาข่ายหรือที่เรียกว่า "ลายเน็ต" ซึ่งมีลักษณะนูนเด่นชัด ก้านทรงดาบซามูไร รูปตัว T สวยงาม เนื้อสีเขียวนุ่ม รสชาติหวานฉ่ำ หอมอร่อย ความหวานประมาณ 14-16 Brix และพิเศษด้วยอายุของผลิตผลที่เก็บได้นานกว่าเมล่อนทั่วไปโดยยังคงคุณภาพสูง
เมล่อนไอโกะ เมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้เกรดพรีเมี่ยม ที่เจียไต๋ได้คัดสรรนำเข้าเมล็ดพันธุ์คุณภาพ เพาะปลูกด้วยความใส่ใจ จนได้เมล่อนไอโกะลูกรูปทรงไข่สวย ขนาดผล 1.2-1.5 กิโลกรัม โดดเด่นด้วยผิวสีเขียวนวล มาพร้อมลายเน็ตตาข่ายสีทองนูนชัด มีก้านเป็นทรงดาบซามูไร รูปตัว T สวยงาม เนื้อเป็นสีส้มตามแบบฉบับเมล่อนญี่ปุ่น นุ่มละมุน รสชาติหวานเข้มข้น หอมอร่อย ความหวานประมาณ 12-15 Brix มีเบต้าแคโรทีนและให้คุณค่าทางอาหารสูง
ซึ่งเมล่อนทั้ง 2 สายพันธุ์ดังกล่าว ผ่านการปลูกด้วยเทคโนโลยีการเพาะปลูกที่ปลอดภัย ผสมผสานความพิถีพิถันและความใส่ใจในทุกขั้นตอนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเมล่อนของเจียไต๋ฟาร์ม โดยทุกลูกถูกปลูกภายในโรงเรือนที่หลังคาหันทางด้านทิศใต้เพื่อให้เมล่อนได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันและสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ซึ่งการเพาะปลูกเมล่อนเจียไต๋ฟาร์มเสมือนงานฝีมือที่ต้องอาศัยความรักและความละเอียดอ่อนในทุกช่วงการเติบโต อาทิ การเพาะกล้า ที่ต้องเรียงเมล็ดไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้แต่ละต้นได้รับแสงแดดที่เท่ากัน ก่อนนำเข้าห้องอบเพื่อควบคุมอุณหภูมิและความชื้นที่ช่วยให้เพิ่มอัตราการงอกที่ดี การไว้ลูก โดยจะปลูกเมล่อนเพียง 1 ลูกต่อ 1 ต้นเท่านั้น เพื่อให้สารอาหารของทั้งต้นมารวมที่เมล่อนลูกเดียว การสร้างลายเน็ต ที่ต้องอาศัยความละเอียดอ่อนและความชำนาญการ โดยผู้เชี่ยวชาญจะขัดผิวและปัดฝุ่นเมล่อนทุกลูกตั้งแต่ลูกเล็กๆ เพื่อให้เมล่อนสร้างปฏิกิริยาเกิดเป็นผิวลายเน็ตที่เด่นชัด สวยงาม เป็นต้น ทั้งนี้ การเพาะปลูกเมล่อนเจียไต๋ฟาร์ม ไม่เพียงต้องมีสายพันธุ์ที่ดีเยี่ยมเท่านั้น ยังต้องอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเพาะปลูกที่ทันสมัยและปลอดภัย ผสานกับความใส่ใจในทุกขั้นตอนการปลูก เพื่อให้ได้เมล่อนญี่ปุ่นพรีเมี่ยมสายพันธุ์ไอโกะและโมริซัง รวมถึงมรกตและโกลเด้นสวีท ที่มีเอกลักษณ์ทั้งผิว รูปทรง และรสชาติ ตามแบบฉบับเมล่อนเจียไต๋ฟาร์ม ผู้นำและกูรูเรื่องเมล่อนในไทย
สำหรับผู้ที่สนใจสั่งซื้อเมล่อนญี่ปุ่นพรี่เมี่ยม ไอโกะและโมริซัง พิเศษช่วงเปิดตัวในราคาสำหรับสมาชิกเจียไต๋ฟาร์ม ราคาคู่ละ 400 บาท (สามารถคละสายพันธุ์ได้) จากราคาปกติลูกละ 325 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ที่ร้าน Chia Tai Farm Shop & Restaurant สุขุมวิท 60 หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ทาง Line @chiataifarm หรือ Facebook: Chia Tai Farm และโทร 089-139-6170 ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป สินค้ามีจำนวนจำกัดเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ถึงมีนาคม 2565 เท่านั้น