NCAP โชว์ผลงานปี 64 โตฝ่าวิกฤติโควิด มีกำไรอยู่ที่ 311 ลบ. เพิ่มขึ้น 54 % ส่วนรายได้รวมโตแตะ 1,382 ลบ. พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 5,492 ลบ. พุ่งขึ้น 44% จากปีก่อนหน้า วางเป้าปี 65 ขยายพอร์ตโตไม่หยุด ที่ประชุมบอร์ดฯ ไฟเขียวอนุมัติแผนเพิ่มทุน เพิ่มกระแสเงินสดเสริมแกร่งรองรับกลยุทธ์การตลาดที่เดินหน้าเชิงรุก
นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ NCAP เปิดเผยความสำเร็จของผลประกอบการงวดประจำปี 2564 ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เติบโตแข็งแกร่ง แม้ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด NCAP มีกำไรรวม 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มีรายได้รวม 1,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% โดยเหตุผลหลักมาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อ และการคัดกรองลูกค้าที่ดีด้วยการใช้เทคโนโลยี AI ทำให้ดอกเบี้ยรับของบริษัทเพิ่มขึ้น 17% และส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ รายได้หนี้สูญรับคืนเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน
อีกทั้ง การมุ่งเน้นบริหารจัดการภายในอย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ถึงแม้อยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงในปีที่ผ่านมา แต่บริษัทยังคงรักษาระดับความสามารถในการเติบโตทั้งรายได้และกำไร โดยมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ในระดับ 23%
โดย NCAP มีพอร์ตสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2564 อยู่ที่ 5,492 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 44% และมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศรวม 24 สาขา เป็นสาขาหลักที่ให้บริการครอบคลุมลูกค้า 66 จังหวัด และจะเพิ่มพื้นที่ให้บริการจากสาขาหลักให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีเป็นหัวใจขับเคลื่อนการทำงานในยุคดิจิทัล เพื่อผลักดันการเติบโตในปีนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง รับกับสถานการณ์โควิดที่มีทิศทางผ่อนคลายเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อีกทั้ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐบาลและเอกชน สนับสนุนให้ภาพรวมการบริโภคในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น จึงมองว่า จะส่งผลดีต่อธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ที่มีความต้องการจากลูกค้าในการใช้อำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการประกอบอาชีพ อีกทั้ง การเดินหน้าต่อยอดผลิตภัณฑ์ด้านการเงินใหม่ๆ และสินเชื่อจำนำทะเบียน คาดว่าจะเห็นความชัดเจนปีนี้ตามแผน
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเติบโตของบริษัท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2565 มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาการเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 675 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์) 0.50 บาท เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน สนับสนุนแผนการตลาดเชิงรุก ในการขยายพอร์ตสินเชื่อและเพิ่มบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนในอนาคตจึงมองว่า การออกหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งนี้ ถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม
โดยบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 450 ล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering-RO) ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 4.50 บาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 225 ล้านหุ้น เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) (NCAP-W1) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) ในอัตราส่วน 2 หุ้นเพิ่มทุนต่อ 1 วอร์แรนต์ โดย NCAP-W1 มีอายุ 1 ปี 6 เดือน นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ และราคาใช้สิทธิจะเท่ากับ 7 บาท