นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงิน และผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า "ในปี 2565 เรามุ่งมั่นที่จะขยับการลงทุนของลูกค้าไปอีกขั้น สอดรับกับยุทธศาสตร์การรุกสู่ธุรกิจ Wealth Management ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ควบคู่ไปกับการดำเนินตามรอยพันธกิจของธนาคาร Forward your wealth ส่งต่อความมั่งคั่ง ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นการลงทุน โดยการใช้เครื่องมือที่หลากหลาย ไปพร้อมกับการมีบริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ผ่านผู้แนะนำการลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าในหลากหลายมิติ ทั้งความต้องการและความชอบส่วนบุคคล"
นายกรกฏ กมลเนตรพิสุทธิ์ ผู้บริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้และเงินตราต่างประเทศ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยต่อว่า "เราเล็งเห็นว่าตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์หลักในการลงทุนของลูกค้า จึงให้ความสำคัญมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการซื้อขายตราสารหนี้ของธนาคาร ให้เป็นที่แรกที่นักลงทุนรายย่อยนึกถึง เกี่ยวกับด้านตราสารหนี้ หรือ One Stop Service เพื่อแก้ไขปัญหา pain point ของลูกค้า และคงความเป็นผู้นำตลาดตราสารหนี้ของลูกค้ารายย่อย หรือ CIMBT Best Bonds House และเพราะความท้าทายนี้ ทำให้เราต้องพัฒนาและมองหาโอกาสในตลาด เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้กับลูกค้าอยู่เสมอ"
วันนี้ทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น ตามดอกเบี้ยโลก แต่ดอกเบี้ยเงินฝากยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยล่าสุดจากข้อมูลของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ในเดือน พ.ย. 64 พบว่า ยังมียอดเงินฝากคงค้างในระบบ แตะสูงถึง 14.89 ล้านล้านบาท ดังนั้นด้วยสภาวะเช่นนี้ จึงเป็นโอกาสของนักออมเงินทั่วประเทศ ในการขยับเงินออมมาลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้คุณภาพดี เพื่อเขยิบผลตอบแทนให้สูงขึ้น หรืออีกมุมนึง สำหรับลูกค้าที่มีหุ้นกู้หรือพันธบัตรในมือ ก็สามารถนำมาขายก่อนครบกำหนดได้ ผ่านบริการซื้อขายตราสารหนี้ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย หรือเรียกกันว่า หุ้นกู้ตลาดรอง ซึ่งเราเป็นผู้นำและผู้เล่นหลักในตลาดนี้
ยกตัวอย่าง พันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมไปด้วยกัน ที่ออกมาในเดือน พ.ย. 2564 วงเงิน 55,000 ล้านบาท ก็จะเริ่มนำมาขายเปลี่ยนมือได้เป็นวันแรก ในวันที่ 23 ก.พ. 2565 นี้ ซึ่งผู้ที่ถือรุ่นนี้ ก็สามารถที่จะปรับพอร์ตการลงทุน นำมาขายก่อนครบกำหนด รับกำไรจากการขาย และนำไปต่อยอดการลงทุน รับโอกาสใหม่ๆ สอดรับกับดอกเบี้ยขาขึ้น"
"การขายก่อนครบกำหนดแบบนี้ หลายๆ คนอาจไม่เคยทราบ เพราะคุ้นชินกับการถือครบกำหนด อย่างพันธบัตรออมทรัพย์ที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคย จนตลาดเติบโตมีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท แต่คนส่วนใหญ่ยังถือจนครบกำหนด เพราะไม่เคยรู้กลยุทธ์การลงทุนในแบบอื่นๆ และนั่นก็คือหน้าที่ของเรา ในการนำเสนอหลากหลายกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ เพื่อช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนให้สูงขึ้น และยังเป็นหัวใจสำคัญในการเสริมสภาพคล่องให้ตลาด รวมถึงเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดทุนของประเทศให้เติบโตไปอีกระดับ" นายกรกฎ กล่าว
"สิ่งที่เรายึดมั่นมาตลอดคือ การนำเสนอโซลูชั่นการลงทุน และโอกาสการทำกำไรให้ลูกค้า ซึ่งการซื้อขายตราสารหนี้ก่อนครบกำหนด ก็เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการออกแบบพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น CIMB Preferred พร้อมเป็นที่ปรึกษาและนำเสนอทางเลือกผลิตภัณฑ์และบริการครอบคลุมตอบโจทย์ความต้องการ เป้าหมาย รวมถึงบริหารความเสี่ยงได้อย่างลงตัวตามเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเลิศกับลูกค้าที่วางใจใช้บริการ และนี่คือที่มาของคำว่า Value Your Uniqueness" นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ กล่าวปิดท้าย
การขายพันธบัตรออมทรัพย์ที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอน เริ่มจาก 1. ลูกค้านำเล่มพันธบัตร ไปเปลี่ยนเป็นใบพันธบัตรจากธนาคารที่ซื้อพันธบัตรมาในครั้งแรก 2. แล้วมาติดต่อขายพันธบัตรที่ ซีไอเอ็มบี ไทย 3. ตามด้วยจัดส่งเอกสารประกอบการขายพันธบัตร ประกอบด้วย พันธบัตรตัวจริง สำเนาบัตรประชาชน สำเนาสมุดบัญชี เมื่อจัดส่งจัดส่งเอกสารตัวจริงครบถ้วนสมบูรณ์ให้ธนาคาร 4. ลูกค้ารอรับเงินจากการขายพันธบัตร ภายใน 4-7 วันทำการได้ทันที
พิเศษ ยอดขายสะสมทุกๆ 1 ล้านบาท รับ Central E-Voucher มูลค่า 200 บาท สูงสุด 10,000 บาทต่อท่าน ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 สนใจข้อมูลแคมเปญโทร 02 626 7777 หรือรับคำแนะนำการลงทุน ติดต่อเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนได้ทุกสาขาของธนาคาร