SGP ประกาศผลประกอบการปี 64 บุ๊คกำไร 3,808.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.71% พร้อมกับรายได้ 78,603.77 ล้านบาท ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก 0.80 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 9 มี.ค.65 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 17 พฤษภาคม 65 ด้าน "ศุภชัย วีรบวรพงศ์" แม่ทัพใหญ่ เปิดแผนปี 65 ตั้งเป้ายอดขายโต 10% ที่ 3.65 ล้านตัน ล่าสุด ตั้งบริษัท "โฮลดิ้ง คอมพานี" ในสปป.ลาว ทุนจดทะเบียน 58 ลบ.
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่าผลประกอบการในงวดปี 2564 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 3,808.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,746.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 84.71 % เทียบกับงวดปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 2,061.84 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 78,603.77 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย,ขนส่ง และบริการ รายได้อื่น 906.13 ล้านบาท
"บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรขั้นต้นในปี 2564 จำนวน 5,821.26 ล้านบาท คิดเป็น 7.41% เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2563 ที่มีกำไรขั้นต้น 3,760.76 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.82% โดยกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจำนวน 2,060.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 54.79% เนื่องจากราคา LPG ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ปี 2564 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งปีหลังราคาก๊าซปรับตัวขึ้นกว่า 245 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งผลให้กำไรในปีที่ผ่านมา เติบโตเป็นที่น่าพอใจ" นายศุภชัย กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.80 บาท โดยจ่ายจากกำไรสะสมและผลประกอบการ และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผลในปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท คิดเป็นเงินรวม 1,837.86 ล้านบาท ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ในวันที่ 22 เมษายน 2565 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 9 มีนาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 17 พฤษภาคม 2565
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 65 จะสามารถเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้ โดยปริมาณขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ราว 3.65 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 3.29 ล้านตัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลายในหลายประเทศ และเริ่มเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวด้วย ส่งผลให้ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ มีความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภัตตาคาร ร้านค้า ผู้ประกอบการรถขนส่งขนาดใหญ่ และรถขนส่งสาธารณะ รวมไปถึงมีการขับเคลื่อนของภาคธุรกิจการท่องเที่ยว อีกทั้งราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการใช้แก๊สในภาคธุรกิจขนส่งเริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ จะส่งผลดีต่อยอดขายของบริษัท
โดยล่าสุด SGP ได้จัดตั้งบริษัท "โฮลดิ้ง คอมพานี" ใน สปป.ลาว บริษัทชื่อ SGP (LAO) CORPORATION SOLE CO., LTD. เพื่อถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีทุนจดทะเบียน จำนวนเงิน 20,000 ล้านกีบ หรือประมาณ 57,860,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20,000 กีบ ซึ่งบริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน