กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--การบินไทย
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยในต่างประเทศร่วมโครงการ Food Inspector เพื่อรักษามาตรฐานอาหารไทยที่ให้บริการในเที่ยวบินของการบินไทยจากจุดบินต่างๆ ทั่วโลก ให้มีรสชาติเป็นเลิศตามแบบฉบับของครัวการบินไทย โดยเริ่มนำร่องในเส้นทาง นิวยอร์ค-กรุงเทพฯ เป็น เส้นทางแรก ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 เป็นต้นไป
นายสมใจนึก เองตระกูล กรรมการบริษัทฯ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ การบินไทย มีแผนงานที่จะสร้างมาตรฐานการบริการอาหารไทยในทุกเที่ยวบิน ทั้งเที่ยวไปและกลับ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งในเรื่อง การผลิตและรสชาติของอาหาร โดยเน้นความสำคัญไปยังอาหารไทยที่ให้บริการในเที่ยวบินขากลับเข้าสู่กรุงเทพฯ ซึ่งผลิตจากครัวการบิน หรือร้านอาหารไทยในต่างประเทศ โดยการบินไทยได้ทำสัญญาว่าจ้างให้ผลิต ซึ่งบางครั้งอาหารที่ผลิตส่วนหนึ่งอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ฝ่ายครัวการบินไทยกำหนด ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้โดยสารที่ใช้บริการในบางเที่ยวบิน ดังนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ฝ่ายบริหารงานและพัฒนางานบริการบนเครื่องบินและฝ่ายครัวการบิน จึงได้ริเริ่มจัดทำโครงการ Food Inspector โดยมอบหมายให้ผู้จัดการการบินไทยที่ประจำตามสถานีต่างประทศทั่วโลก ดำเนินการคัดสรรร้านอาหารไทยหรือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทย ตามจุดบินต่างๆ มาเป็นผู้ตรวจสอบอาหาร หรือ Food Inspector ให้กับการบินไทย ซึ่ง Food Inspector จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
เป็นผู้ที่รู้และชำนาญในเรื่องอาหารไทยเป็นอย่างดี
สามารถพูดภาษาท้องถิ่นได้
มีใบขับขี่ของประเทศนั้นๆ
สำหรับหน้าที่ของ Food Inspector คือ ตรวจสอบอาหารไทยตามครัวการบิน หรือ ร้านอาหารไทย ที่การบินไทยได้ว่าจ้างให้ผลิตอาหารตามจุดบินต่างๆ ให้มีขั้นตอนการผลิต และมี รสชาติ เป็นไปตามมาตรฐานที่ฝ่ายครัวการบินไทยกำหนด พร้อมประยุกต์ให้อร่อยถูกใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยจะเริ่มโครงการนำร่องในเส้นทาง นิวยอร์ค-กรุงเทพฯ เป็นเส้นทางแรก ในเดือนตุลาคม 2548 นี้ และขยายผลในเส้นทางยุโรปต่อไป
นอกจากนี้ การบินไทย ได้เชิญ Food Inspector ที่ได้ทำการคัดเลือกแล้ว เดินทางมาเข้าอบรมและเยี่ยมชมกิจการที่ฝ่ายครัวการบินไทย คาดว่า โครงการดังกล่าว จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอาหารไทยประยุกต์ ที่มีรสชาติอร่อยถูกใจทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ อีกทั้งยังช่วยเผยแพร่อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในต่างประเทศทั้งในเรื่องรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการของสมุนไพรไทย อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนโครงการครัวไทยสู่โลกตามนโยบายของรัฐบาล--จบ--