สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มอบใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (RDIMS) แก่กลุ่มทรู ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในฐานะองค์กรที่มีศักยภาพและมีคุณภาพด้านการบริหารจัดการและดำเนินงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาสินค้าและบริการอันเป็นเลิศ ตรงใจผู้บริโภค พร้อมสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่คนในชาติ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยกลุ่มทรู ได้เข้าร่วมโครงการวิจัยยกเว้นภาษี 200% ตั้งแต่ปี 2558 อีกหนึ่งมาตรการกระตุ้นและจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนด้านวิจัยและพัฒนามากยิ่งขึ้น สะท้อนอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความทุ่มเทของกลุ่มทรู เพื่อยืนหยัดความเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยียุคดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศ
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า "ขอแสดงความยินดีแก่ความสำเร็จของกลุ่มทรู ที่ได้ผ่านการตรวจประเมินและรับรองจากคณะกรรมการรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ RDIMS ภายใต้ความร่วมมือของสวทช. และพันธมิตร 3 หน่วยงาน ได้แก่ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ (สรอ.) และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ (สพช.) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองระบบดังกล่าวสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ 200% สำหรับรายจ่ายในการวิจัยได้ด้วยตนเอง (Self-Declaration) อีกทั้ง ยังช่วยให้ผู้ประกอบการมีการบริหารงานวิจัยที่เป็นระบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่กลุ่มทรู ได้รับการรับรองระบบครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อพัฒนานวัตกรรมสินค้าหรือบริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า และสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจให้แก่องค์กรได้"
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า "กลุ่มทรู ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีดิจิทัล ตระหนักถึงความสำคัญด้านนวัตกรรม ด้วยเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนให้องค์กรดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน พร้อมสร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ประเทศ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ขอขอบคุณคณะกรรมการสวทช. ที่เห็นถึงความตั้งใจ พิจารณามอบใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้แก่กลุ่มทรูครั้งนี้ โดยที่ผ่านมา กลุ่มทรู ได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีสื่อสารมาทรานสฟอร์มให้ทุกคนพร้อมก้าวสู่ยุคดิจิทัล อาทิ ทรูไอดี คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ การส่งเสริมภาคเกษตรกรรม นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และทรู 5G มาใช้ในการควบคุมดูแลฟาร์มกุ้งและฟาร์มหมู นำหุ่นยนต์มาสนับสนุนธุรกิจค้าปลีก บริหารจัดการสโตร์และเพย์เมนต์ต่างๆ อีกทั้ง Smart Living ยกระดับการใช้ชีวิตในบ้านให้ทุกครอบครัวสัมผัสประสบการณ์สุดล้ำ นอกจากนี้ ด้านสุขภาพ ยังช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านแอปพลิเคชัน MorDee รวมถึงวิถีนิว นอร์มัลที่มีแพลตฟอร์ม True VWorld ให้ทำงานและเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา และการนำ AI เข้ามาช่วยแก้ปัญหาลูกค้ารอสายคอลล์ เซ็นเตอร์ ด้วย "มะลิ AI" ตลอดจนมาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมและประเมินเครดิต ช่วยกลุ่มคนที่ไม่สามารถขอเครดิตปกติ เข้าถึงการยืมเงินฉุกเฉินในระบบได้"
ทั้งนี้ การได้ใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความทุ่มเทของกลุ่มทรู ในการยืนหยัดความเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยียุคดิจิทัลชั้นนำระดับประเทศ หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการวิจัยยกเว้นภาษี 200% ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการที่ช่วยกระตุ้นและจูงใจให้ภาคเอกชนลงทุนด้านวิจัยและพัฒนามากขึ้น และในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ยังได้เยี่ยมชม "True 5G Worldtech X" ศูนย์กลางความรู้และพัฒนานวัตกรรม 5G ที่จะมีบทบาทพลิกโฉมอุตสาหกรรมครอบคลุม 6 มิติ ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ การเกษตรอัจฉริยะ การศึกษาอัจฉริยะ อุตสาหกรรมอัจฉริยะ คุณภาพชีวิตอัจฉริยะ และการค้าปลีกอัจฉริยะ ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลแห่งแรกในไทย และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย