PHOL ประกาศผลงานปี 64 โกยกำไร 82 ล้านบาท โตเกือบ 11% รายได้อยู่ที่ 1,226 ล้านบาท ไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 0.16 บาท กำหนดจ่าย 20 พฤษภาคมนี้ กางแผนปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 10-15% ธุรกิจสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยฯ คาดเติบโตตามความต้องการของลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ ขณะที่ธุรกิจสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อมรับอานิสงส์บวกจากการเปิดประเทศและการลงทุนใน EEC หนุนลูกค้าต่างชาติในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ย้ายฐานการลงทุนมาไทย ด้านธุรกิจน้ำ คาดยังเติบโตสูงตามเทรนด์การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มโอกาสรับงานโปรเจกต์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่โดยร่วมมือกับพันธมิตร
นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยผลประกอบการงวดประจำปี 2564 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564) มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 1,225.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.25 ล้านบาท หรือ 16.13% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 1,055.51 ล้านบาท โดยสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย รวมถึงสินค้าด้านการควบคุมสภาพแวดล้อม มีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยังมีความต้องการสินเค้าเพื่อป้องกันเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ใช้เพื่อการป้องกันบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมและการป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้รายได้จากกลุ่มโรงพยาบาล หน่วยงานทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงลูกค้ากลุ่มตัวแทนจำหน่ายมีจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับธุรกิจน้ำมีรายได้ลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แผนงานโครงการใหม่ของลูกค้าบางรายชะลอออกไป
"ผลประกอบการที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ทั้งรายได้และกำไรเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ จากความต้องการสินค้าเพื่อรับมือสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและทางการแพทย์ โดยเฉพาะถุงมือ หน้ากากอนามัย และชุดอุปกรณ์ป้องกันภัยต่างๆ มองปี 65 ภาพรวมอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจยังเติบโตได้ จากแรงหนุนมาตรการภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงการดำเนินธุรกิจหรือการใช้ชีวิตตามวิถีปฏิบัติใหม่ ทำให้ความต้องการสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น" นายบุญชัย กล่าว
สำหรับปี 2564 บริษัทมีผลกำไรสุทธิส่วนอยู่ที่ 81.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.87% โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.16 บาทแล้ว คงเหลือปันผลที่จะจ่ายในงวดครึ่งปีหลังอีกในอัตราหุ้นละ 0.16 บาท โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เมษายน 2565 นี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิประชุมผู้ถือหุ้นและได้รับปันผล (Record date) วันที่ 11 มีนาคม 2565 และวันที่จ่ายปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2565
สำหรับภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 ที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ารายได้ เติบโต 10-15% โดยบริษัทฯยังชู 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจกลุ่มสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม หรือ SAFETY คาดว่าภาคอุตสาหกรรมหลักต่างๆจะฟื้นตัวกลับมาและมีการขยายตัวที่ดีขึ้น การรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดมีทิศทางดีขึ้น การลงทุนและขยายงานในภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐยังมีต่อเนื่อง บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการ ทำการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ที่มีทิศทางเติบโตในอนาคต การพัฒนาช่องทางออนไลน์ต่อเนื่องให้สามารถรองรับตลาดผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น
ด้านธุรกิจกลุ่มสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลักมีแนวโน้มการเติบโตจากการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ฐานโรงงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเปิดประเทศ จะทำให้มีการลงทุนโดยเฉพาะใน EEC หนุนลูกค้าต่างชาติในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ย้ายฐานการลงทุนมาประเทศไทย เป็นโอกาสให้ธุรกิจ CE เติบโตขึ้น
สำหรับธุรกิจสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค หรือ WATER คาดยังมีโอกาสเติบโตสูง มีปัจจัยสนับสนุนจากลูกค้าที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องการดูแลบำบัดน้ำเสีย และการทำระบบรีไซเคิลน้ำเพื่อลดต้นทุนและแก้ปัญหาภัยแล้ง บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก และจากการปูฐานเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมมา ส่งผลให้ลูกค้ารู้จักและเลือกใช้บริการกับบริษัทฯมากขึ้น นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานโปรเจกต์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่