นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ผักตบชวาและวัชพืชในแม่น้ำ ลำคลอง แหล่งน้ำสาธารณะต่าง ๆ เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน จึงได้กำชับกรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย โดยให้ติดตาม ตรวจสอบ ดูแล และแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชอย่างต่อเนื่องในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมตัว สร้างปัญหาการสัญจรทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพในการการระบายน้ำ รวมทั้งรักษาคุณภาพน้ำในแม่น้ำและแหล่งน้ำให้อยู่ในค่ามาตรฐานต่อไป
นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบดำเนินการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืช โดยดูแลรับผิดชอบในแม่น้ำสายหลัก 2 สาย คือ แม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่ใต้เขื่อนแม่กลอง ผ่านจังหวัดราชบุรี และจังหวัดสมุทรสงครามลงสู่อ่าวไทย (ระยะทางประมาณ 92 กิโลเมตร) แม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ใต้ประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาครลงสู่อ่าวไทย (ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร) ซึ่งในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมิถุนายนของทุกปีเป็นช่วงที่ผักตบชวาขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในแม่น้ำท่าจีน ประกอบกับการไหลขึ้นลงของน้ำและแรงลม ส่งผลให้ผักตบชวามีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดปัญหาผักตบชวาหนาแน่นและติดค้างอยู่ตามจุดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก จึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และเรือกำจัดผักตบชวาแบบสายพานลำเลียงพร้อมบีบอัด จำนวน 6 ลำ เรือกำจัดผักตบชวา ขนาด 2.5 ตัน จำนวน 2 ลำ เรือพอนทูนบรรทุกรถขุด จำนวน 4 ลำ รวมทั้งหมด 12 ลำ เร่งกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในพื้นที่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยแบ่งเป็น 3 ชุดปฏิบัติการ ได้แก่ ชุดที่ 1 บริเวณวัดเชิงเลน ชุดที่ 2 วัดกัลยาณีทรงธรรม และชุดที่ 3 วัดทรงคนอง ซึ่งผลปฏิบัติการระหว่างวันที่ 14 - 20 กุมภาพันธ์ 2565 สามารถกำจัดผักตบชวาได้ประมาณ 12,800 ตัน และได้ตั้งเป้าหมายในการกำจัดผักตบชวาที่แม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ถึงอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถดำเนินชีวิตและสัญจรได้อย่างปกติ