รมช.มนัญญาลงพื้นที่เชียงรายติดตามโครงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดให้สหกรณ์การเกษตร หวังใช้ประโยชน์ช่วยเก็บชะลอข้าวและพืชผลการเกษตรในพื้นที่และรักษาเสถียรภาพราคา

ข่าวทั่วไป Thursday March 3, 2022 11:43 —ThaiPR.net

รมช.มนัญญาลงพื้นที่เชียงรายติดตามโครงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดให้สหกรณ์การเกษตร หวังใช้ประโยชน์ช่วยเก็บชะลอข้าวและพืชผลการเกษตรในพื้นที่และรักษาเสถียรภาพราคา

รมช.มนัญญา ลงพื้นที่เชียงรายติดตามโครงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดให้สหกรณ์การเกษตร หวังใช้ประโยชน์ฉาง โกดัง ลานตาก ช่วยเก็บชะลอข้าวและพืชผลการเกษตรในพื้นที่ หนุนสหกรณ์ในเชียงรายเพิ่มศักยภาพรวบรวมข้าวเพิ่มปีละกว่า 1.7 หมื่นตัน จากเดิมเพียง 2,649 ตัน

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้มีโอกาสลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การตลาดและการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรรองรับผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล เพื่ออุดหนุนให้แก่สหกรณ์การเกษตรนำไปจัดสร้างอุปกรณ์การตลาดต่างๆ สำหรับรองรับการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งในโครงการนี้ได้รับเงินจากรัฐบาลมาในปี 2564 จำนวนกว่า 1,600 ล้านบาท โดยสหกรณ์การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการจะสมทบเงินเข้ามาเพิ่มร้อยละ 10 เพื่อที่จะไปสร้างอุปกรณ์การตลาดต่างๆ ว่าจะเป็นพวกโรงสี โรงคลุม ลานตาก เครื่องอบลดความชื้น หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้เกี่ยวกับการแปรรูปผลผลิตเพี่อเพิ่มมูลค่าและระบบการขนส่งสินค้าเพื่อจำหน่ายสู่ตลาด ซึ่งจังหวัดเชียงรายได้รับการจัดสรรงบประมาณให้สถาบันเกษตรกร 10 แห่ง มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท เพื่อนำไปสนับสนุนศักยภาพของสหกรณ์รวบรวมผลผลิตของสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ โดยเฉพาะจะเน้นเรื่องการปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือก เพื่อสร้างรายเพิ่มเมื่อมีกำไรจะได้มาปันผลคืนให้กับสมาชิก

"โครงการนี้รัฐบาลจัดงบประมาณให้สำหรับสหกรณ์ที่เสนอโครงการมายังกสส.เพื่อพิจารณาคัดเลือก โดยรัฐสนับสนุนร้อยละ 90 ขณะที่สหกรณ์สมทบร้อยละ 10 จากเดิมที่ต้องสมทบร้อยละ 30 ทำให้สหกรณ์เหลือสภาพคล่องอีกร้อยละ20 ใช้หมุนเวียนบริการสมาชิก ไม่ต้องไปกู้จากที่อื่นมาใช้ ดังนั้น การที่ดิฉันและกสส.ได้ต่อรองเพื่อให้รัฐบาลยอมลดสัดส่วนสหกรณ์สมทบเหลือร้อยละ 10 จนสำเร็จ ถือว่าเป็นผลจากการที่พี่น้องสหกรณ์ได้เขียนโครงการดี ๆ เข้ามาให้รัฐเล็งเห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ ดังนั้น เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จขอให้ทุกสหกรณ์ช่วยกันใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด เช่น โกดัง ลานตาก เดิมเกษตรกรต้องนำข้าวไปตากริมข้างทาง กระทบกับความปลอดภัยของคนใช้ถนน ต่อไปนี้ก็มาใช้ลานตากสหกรณ์ และเรามีเครื่องอบลดความชื้นที่จะช่วยทำให้เกษตรกรขายข้าวได้ราคา ที่เป็นธรรมไม่โดนกดราคาเพราะถูกหักค่าความชื้น โครงการนี้จึงเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ " นางสาวมนัญญา กล่าว

ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ผลจากโครงการทำให้สหกรณ์มีศักยภาพในการรวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกจากสมาชิกเพื่อนำมาสีหรือแปรรูปเป็นข้าวสารที่มีคุณภาพเพื่อจำหน่ายและนำกำไรมาปันผลคืนให้สมาชิก นอกจากนั้นสหกรณ์ที่รวบรวมข้าวโพดจะมีการเชื่อมโยงกับฟาร์มปศุสัตว์ทั้งผู้เลี้ยงไก่ โคเนื้อและ โคนม ในการรับผลผลิตข้าวโพด เปลือก ซัง ไปทำอาหารสัตว์ ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ชนิดต่าง ๆ ด้วย ซึ่งการเก็บชะลอผลผลิตเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากผลผลิตการเกษตร จะออกมาในฤดูเดียวกันพร้อมกัน เช่น ข้าวเปลือก ช่วงเวลาออกมาในลักษณะเป็นข้าวนาปี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนมกราคม ในช่วงนั้นผลผลิตก็จะมีค่อนข้างมาก ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ได้ให้สหกรณ์ต่างๆดำเนินการเก็บชะลอผลผลิตเหล่านี้ ในอุปกรณ์การตลาดที่สหกรณ์ได้รับไป ไม่ว่าจะเป็นพวกโรงคลุม ฉาง เครื่องอบลดความชื้น และไซโล ก็เพื่อชะลอผลผลิตไว้ในโกดัง ไม่ให้ออกมาขายพร้อมกันในช่วงต้นฤดู เพราะจะทำให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่ต่ำ จึงต้องมีการเก็บชะลอไว้เพื่อที่จะรอเวลาที่เหมาะสม หรือนำไปแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า จะช่วยให้เกิดเสถียรภาพด้านราคามากยิ่งขึ้น

นายสมบัติ ต๊ะยะ ประธานกรรมการสหกรณ์การเกษตรเวียงชัย จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์แห่งนี้ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 44 ปี ปัจจุบันมีสมาชิก 6,333 ราย มีทุนการดำเนินงานกว่า 645 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (งบกลางปี) จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ เมื่อปี 2561 เพื่อนำไปจัดหาอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็นสำหรับรวบรวมผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ฉาง ขนาด 2,000 ตัน จำนวน 1 แห่ง ทำให้ในปีการผลิต 2564/65 สหกรณ์ได้เปิดรับซื้อข้าวจากสมาชิก 2,649 ตัน คิดเป็นมูลค่า 25 ล้านบาท และสามารถเข้าร่วมโครงการชะลอข้าวเปลือกกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) ได้เงินค่าชะลอตันละ 500 บาท ทำให้มีกำไรมาปันผลให้สมาชิก สำหรับโครงการปรับโครงสร้างการผลิต การรวบรวม และการแปรรูปของสถาบันเกษตรกรเพื่อรองรับผลผลิตทางการเกษตร ปี 2564 สหกรณ์ได้รับงบประมาณอุดหนุนอีกจำนวน 65 ล้านบาท นำไปจัดซื้อ เครื่องอบลดความชื้น 300 ตัน/วัน จำนวน 1 แห่ง ก่อสร้างโกดัง ขนาด 5,000 ตัน จำนวน 1 แห่ง และลานตาก 1,600 ตารางเมตร จำนวน 1 แห่ง ซึ่งปีนี้ มีแผนการรวบรวมข้าวจากสมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่ 17,500 ตัน แบ่งเป็นข้าวนาปรัง 5,000 ตัน และข้าวนาปี 12,500 ตัน ทำให้สหกรณ์การเกษตรเวียงชัย จำกัด ทำหน้าที่เป็นแก้มลิงเก็บชะลอผลผลิตและตอบสนองความต้องการของสมาชิกสหกรณ์ให้สามารถลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้แก่สมาชิกและเกษตรกรในพื้นที่อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ