สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เชิญชวนพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น (เข็ม3) จะช่วยลดอาการป่วยหนักและลดการเสียชีวิตได้ถึง 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่รับวัคซีน และเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลสงกรานต์
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์โควิดของประเทศไทยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กอปรกับเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้ การเดินทางกลับบ้าน หากไม่มีการป้องกัน ก็จะทำให้แนวโน้มของติดเชื้อเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุแม้ว่ามีการติดเชื้อน้อยกว่ากลุ่มวัยอื่น แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าหลายเท่า
กรมควบคุมโรค วิเคราะห์ว่าผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในระลอกนี้ เมื่อเทียบกับการรับวัคซีนโควิด 19 ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ 2565 พบว่าผู้ เสียชีวิต ร้อยละ 75 เป็นผู้สูงอายุ (มากกว่า 60 ปี) โดยผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม ลดอัตราการเสียชีวิตได้ถึง 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่รับวัคซีน และผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จะลดการเสียชีวิตได้ 6 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้รับวัคซีน และผู้สูงอายุที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม จะลดอัตราการเสียชีวิตลง 7 เท่า เมื่อเทียบกับฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม
สำหรับความครอบคลุมการฉีดวัคซีนในพื้นที่เขตสุภาพที่ 12 พบว่า ได้รับวัคซีนเข็ม 1 ร้อยละ 67.95 เข็ม 2 ร้อยละ 59.84 และเข็ม 3 ร้อยละ 14.61 โดยกลุ่มผู้สูงอายุได้รับวัคซีน ร้อยละ 62.61
สคร.12 สงขลา เน้นย้ำ บุตรหลานพาผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน มารับวัคซีนเข็มแรก หากฉีดเข็มแรกแล้วให้ฉีดเข็ม 2 ตามนัด และหากรับครบ 2 เข็ม เกิน 3 เดือน ให้รีบมารับเข็มกระตุ้นเข็ม 3 เพื่อช่วยลดอาการป่วยหนักและลดการเสียชีวิต อีกทั้งเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลสงกรานต์ ที่ลูกหลานจะเดินทางกลับไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่บ้าน โดยลูกหลานต้องฉีดวัคซีนและต้องป้องกันตนเองด้วยเช่นกัน เนื่องจากสงกรานต์ปีที่แล้วหลายครอบครัวต้องสูญเสียผู้สูงอายุที่ติดเชื้อจากลูกหลานที่กลับไปเยี่ยม ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ต้องการเข้ารับการฉีดวัคซีนสามารถติดต่อได้ที่หน่วยงานสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422