เนื่องในโอกาสก้าวขึ้นสู่ปีที่ 50 ของโรงพยาบาลกรุงเทพ ภายใต้การบริหารงานของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เรามุ่งมั่นยกระดับการให้บริการทางการแพทย์สู่ความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ มุ่งบริการดูแลผู้ป่วยให้ได้รับความสะดวกรวดเร็ว และเข้าถึงการรักษาได้ง่าย เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน ปีนี้ชูคอนเซ็ปต์ "เป็นมากกว่าโรงพยาบาล (More Than Hospital) ดูแลสุขภาพคุณทุกที่ ทุกเวลา" ผ่านแคมเปญการตลาดตลอดทั้งปี เพื่อขอบคุณผู้รับบริการที่ให้การสนับสนุนและกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสริมความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้สูงขึ้น ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว สอดคล้องกับพันธกิจของโรงพยาบาลที่ดูแลทุกท่านมาตลอด 50 ปี
พญ.เมธินี ไหมแพง รองประธานคณะผู้บริหาร กลุ่ม 1 และ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ตลอด 50 ปีที่โรงพยาบาลกรุงเทพ มุ่งมั่นให้การรักษาผู้ป่วยทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติ ให้ได้รับประสบการณ์การรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว โรงพยาบาลได้ยกระดับการทำงานให้เป็น Healthcare Intelligence เพื่อนอัจฉริยะที่รู้ใจทุกเรื่องสุขภาพ เต็มรูปแบบ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการระบบภายในโรงพยาบาล โดยมีคนไข้เป็นศูนย์กลาง ในทุกกระบวนการของระบบปฏิบัติการรักษาพยาบาล มีการเชื่อมต่อและส่งต่อข้อมูลระหว่างกันตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ จากทุกที่ทุกเวลา พร้อมทั้งเปิดแอปพลิเคชันมายบีพลัส (My B+) รองรับการใช้งานของผู้มารับบริการได้ทุกการรักษา
ซึ่งแอปพลิเคชัน My B+ คู่หูดูแลสุขภาพคุณ เป็นตัวกลางที่เชื่อมการทำงานย่อส่วนจากระบบปฏิบัติภายในโรงพยาบาล ให้คุณเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว ตั้งแต่การนัดหมายแพทย์แบบ real-time appointment การปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ผ่านระบบ Tele-consultation ดูประวัติติดตามผลตรวจสุขภาพและข้อมูลยา ดูผลการตรวจ COVID-19 ภายใน 24 ชั่วโมง และการชำระเงิน ไปจนถึงข้อมูลสุขภาพอื่นๆ ซึ่งในสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสุขภาพอื่น ๆ ได้ง่ายมากขึ้น รวดเร็ว ลดการเดินทาง ลดโอกาสในการติดเชื้อ เช่น โรงพยาบาลบริการตรวจและรายงานผล COVID-19 ในกลุ่มกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศ ที่ถ่ายทำในสถานที่ต่าง ๆ ภายในประเทศไทย ช่วยอำนวยความสะดวก ทราบผลการตรวจได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถดำเนินการถ่ายทำและคัดกรองทั้งคนไทยและต่างชาติให้ปลอดเชื้อได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ทางโรงพยาบาลก็สามารถขยายบริการดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึงในทุกที่ ทุกเวลาในหลายๆ สถานที่พร้อม ๆ กัน
นอกจากในปีนี้ โรงพยาบาลกรุงเทพได้ร่วมมือกับเครือ BDMS จัดแพ็กเกจ BDMS Screening ครอบคลุมการตรวจคัดกรอง 3 โรคร้าย ด้านสมอง มะเร็ง และหัวใจ เพื่อตอกย้ำความตั้งใจในการดูแลสุขภาพของคนไทย สำหรับบุคคลอายุ 35 ขึ้นไป ในราคา 5,550 บาท ประกอบด้วย การตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง โดยเพศชายจะตรวจอวัยวะภายในช่องท้องส่วนบนโดยใช้คลื่นความถี่สูง (Ultrasound Upper Abdomen) ได้แก่ ตับ ม้าม ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ไต ส่วนเพศหญิงจะเป็นการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยดิจิทัลแมมโมเกรมและอัลตราซาวนด์ (Digital Mammogram and Ultrasound both sides) เพื่อวินิจฉัยหาความผิดปกติของเต้านมตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งสามารถตรวจได้ทั้งเมื่อมีอาการและยังไม่เกิดอาการผิดปกติ การตรวจคัดกรองโรคสมองและระบบประสาท เป็นการตรวจดูผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง (Carotid Doppler Ultrasound) ตรวจหาคราบหินปูนที่อยู่ตามบริเวณหลอดเลือดที่คอเพื่อดูภาวะตีบแคบของหลอดเลือด และการตรวจคัดกรองโรคหลอดเลือดหัวใจ เป็นการตรวจวัดระดับแคลเซียมหรือหินปูนของผนังหลอดเลือดหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Coronary Calcium Score) เพื่อประเมินความเสี่ยงซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เพราะการตรวจสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ ทำให้เราได้รู้เท่าทันความเสี่ยงต่อโรคร้าย และช่วยหาโรคที่ไม่แสดงอาการในช่วงระยะแรกได้ เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและติดต่อซื้อโปรแกรม BDMS Screening เข้ามาทำนัดและรับบริการที่โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ (ซ.ศูนย์วิจัย) พร้อมช่องทางการจัดจำหน่าย สั่งซื้อคูปอง E - Coupon ทาง 4 ช่องทางออนไลน์ 1. ผ่านแอปฯ Shopee โดยค้นหาหน้าร้านออฟฟิเชียลสโตร์ BangkokHospital_official บน Shopee Mall 2. Line chatbot : @BplusOnline ของโรงพยาบาลกรุงเทพ 3. www.Health-Plaza.com : BangkokHospital 4. www.savedrugonline.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มีนาคม 2565 โดยสามารถใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 31 สิงหาคม 2565 ในเฟส 2 เดือนพฤษภาคม - กรกฎาคม เน้นการผ่าตัด ทำโปรโมชั่นหัตถการผ่าตัดข้อเข่าเทียม ในราคา 250,000 บาท โดยทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์สหสาขาวิชาที่ชำนาญการ ช่วยให้คุณฟื้นตัวไว คืนการเคลื่อนไหวให้คุณได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเร็วยิ่งขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในฐานะที่รพ. กรุงเทพ เป็นส่วนหนึ่งของ BDMS ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาและขยายการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสู่ระดับสากล โดยการกำหนดแผนแม่บทเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมสามารถพัฒนาควบคู่กันไปได้อย่างมีดุลยภาพ โดยได้นำแผนดังกล่าวนำมาปรับใช้ในการทำงานขั้นพื้นฐาน และผลักดันให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์และวัฒนธรรมองค์กร รวมถึงการกำกับดูแลการดำเนินงานขององค์กรจากปัจจุบันสู่อนาคต และเราจะไม่หยุดยั้งในการพัฒนาเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงคู่ประเทศและสังคมโลกต่อไป จนได้รับจัดอันดับเข้าเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ DJSI (Member of Dow Jones Sustainability Indices) ถือเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างยั่งยืน ภายใต้เกณฑ์ที่มุ่งเน้นกิจกรรมเสริมสร้างความยั่งยืนทั้ง 3 มิติคือ ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม(Environment) การดูแลสังคม (Social) และมีธรรมาภิบาลทางธุรกิจ (Governance)
กิจกรรมเพื่อสังคมเป็นอีกสิ่งที่โรงพยาบาลกรุงเทพให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าพันธกิจทางการรักษาพยาบาลที่เน้นมาตรการความปลอดภัยและมาตรฐานการรักษา โดยเฉพาะในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทางโรงพยาบาลได้ร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน สนับสนุนวาระแห่งชาติ จัดบริการหน่วยฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาลและภายในโรงพยาบาล เพื่อบริการฉีดให้กับประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยให้สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ลดความรุนแรงของอาการเจ็บป่วย และช่วยลดอัตราการเสียชีวิต ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 64 - กุมภาพันธ์ 65 เราให้บริการฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 300,000 คน พร้อมทั้งจัดทีมบุคลากรทางการแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลสนามบีดีเอ็มเอส สนามกีฬาทอ.(ธูปะเตมีย์) รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ประมาณ 100 เตียง รวมไปถึงการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในภาวะวิกฤต ด้วยแคปซูลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยความดันลบ ช่วยให้คนไข้และบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้รับความปลอดภัยสูงสุดขณะลำเลียง และเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายเชื้อจากคนไข้สู่บุคลากรและสิ่งแวดล้อม และในปีนี้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก วัคซีนสำหรับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเด็กตามโรงเรียนต่าง ๆ และเพื่อต่อยอดการดูแลสุขภาพแบบยั่งยืนให้กับประชาชน เตรียมจัดอบรมการสอนช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน Basic Life Support ช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) และการช่วยผู้ป่วยสำลักอุดกั้นทางเดินหายใจ ให้กับชุมชน โรงเรียน สถานตำรวจ และบริษัทเอกชนต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนมีความรู้และประยุกต์ใช้จริง หากเกิดภาวะฉุกเฉินขึ้นภายในบ้านหรือสถานที่ที่อยู่อาศัย กิจกรรมนี้จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิต และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน