Harley-Davidson(R) ประกาศเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์สองรุ่นใหม่จากตระกูลทัวร์ริ่ง พร้อมกันในประเทศไทย อันได้แก่ Street Glide(R) ST และ Road Glide(R) ST พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพของรถมอเตอร์ไซค์ที่บรรจุสัมภาระได้ ผสานเข้ากับสไตล์ที่โดดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์แข่ง อย่าง Screamin Eagle(R) Factory โดยรถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแห่งเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight(R) 117 แบบ V-Twin พร้อมผสานสไตล์ดุดันแบบตะวันตกด้วยเสน่ห์แห่งสีดำและบรอนซ์ โดยรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลแกรนด์อเมริกันทัวร์ริ่งทุกรุ่น จะเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าด้วยความสะดวกสบายให้กับเหล่านักขับขี่ เพื่อให้การเดินทางนั้นเป็นที่น่าจดจำ
ทั้งนี้ Harley-Davidson(R) ได้เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่พร้อมกันทั่วโลกเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 ภายในงานเปิดตัวแบบเสมือนจริง "Further. Faster." และในวันที่ 12 มีนาคม 2565 ทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson(R) ในประเทศไทย จะจัดงาน Open House เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่จากตระกูลทัวร์ริ่ง พร้อมอีกหลากหลายโมเดล ในรุ่นปี 2022 อาทิ Pan America(TM) และ Sportster(TM) S ที่มาพร้อมสีใหม่ สำหรับลูกค้าที่ต้องการชมโฉมจริงของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่อย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson(R) ใกล้บ้านของท่าน และเป็นเจ้าของรถรุ่นใหม่เหล่านี้เป็นคนแรก ได้ในเสนอราคาเริ่มต้นที่ 560,000 บาท
"Harley-Davidson(R) ยึดมั่นในการนำเสนอมาตรฐานที่ดีที่สุด ทั้งด้านสมรรถนะ วิศวกรรม และนวัตกรรมแห่งเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรฐานเหล่านี้ได้สะท้อนอยู่ในไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2022 ด้วยนิยามแห่งสมรรถนะและสไตล์ที่โดดเด่น โดย Harley-Davidson(R) ได้เห็นถึงกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากเหล่านักขับขี่ในประเทศไทยต่องาน Open House ครั้งที่ผ่านมา และเราก็มั่นใจว่ารถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ก็จะได้รับความสนใจเช่นเคย โดยไฮไลท์หลักของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2022 คือขุมพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 ที่ได้รับการพัฒนาด้านกำลังและสมรรถนะมาอย่างเต็มที่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าจดจำ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson(R) เราหวังว่าจะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่โลดแล่นบนท้องถนนของประเทศไทยในขณะที่นักขับขี่ออกผจญภัยไปกับรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ของพวกเขา" ซาจีฟ รัชเกคาราน กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson(R) สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย กล่าว
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117
เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 แบบ V-Twin มาพร้อมการกระจัดและแรงบิดอันทรงพลังจากโรงงานด้วยความจุกระบอกสูบ 117 ลูกบาศก์นิ้ว เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 รูปแบบการระบายความร้อนด้วยน้ำมัน มีแรงบิดขนาด 127 ฟุต-ปอนด์ ที่ 3750 RPM ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสแรงพลังขณะขับขี่และบิดคันเร่งบนท้องถนน เครื่องยนต์ที่มาพร้อมเพลาลูกเบี้ยวประสิทธิภาพสูง ชิ้นส่วนกรองหน้าที่ทำงานได้อย่างไหลลื่น ท่อไอเสียแสดงถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่ยังถูกกฎหมายว่าด้วยการปล่อยมลพิษทั้ง 50 รัฐ และคงรักษาเอกลักษณ์ของเสียง Screamin' Eagle(R) Performance Parts Stage Upgrades จาก Harley-Davidson(R) และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ พร้อมให้นักขับขี่สามารถติดตั้งได้ที่ตัวแทนจำหน่ายแบบทางการ เพื่อเพิ่มความเร็วในการขับขี่อย่างเหนือชั้น
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide(R) ST
พบกับความเร็วเหนือชั้นจากรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson(R) ที่ทรงพลังและเต็มเปี่ยมด้วยสไตล์แบบตะวันตกเพื่อให้ผู้ขับขี่ที่กระหายความเร็วไม่รู้จบ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide(R) ST ได้ผสมผสานพลังของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 กับสไตล์ที่ดุดันแบบตะวันตกและสีเข้มและบรอนซ์อย่างลงตัว
แฟร์ริ่งรูปทรงปีกค้างคาวอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson(R) มาพร้อมช่องระบายอากาศที่ช่วยลดแรงกระแทกของศีรษะและกระบังลมสีเข้มแบบเตี้ย คอนโซลถังน้ำมันระดับต่ำที่มีฝาเติมน้ำมันด้านข้างและการ์ดของเครื่องยนต์ที่เพิ่มเข้ามาให้เป็นความแตกต่างจากทัวร์ริ่งรุ่นอื่น ๆ
ผสานความโดดเด่นของรถมอเตอร์ไซค์แข่ง อย่าง Screamin Eagle(R) Factory รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide(R) ST ถูกนำเสนอด้วยสีดำในแต่ละส่วนของตัวรถ, แผงควบคุม, เครื่องยนต์ และท่อไอเสีย มีเพียงบางส่วนที่นำเสนอด้วยสีสว่างคือท่อก้านกระทุ้งและฝาครอบก้านกระทุ้ง และครีบกระบอกสูบ สีบรอนซ์เข้มด้านบนล้ออลูมิเนียมหล่อแบบ Prodigy แถบสีที่กล่องโยกด้านล่าง เหรียญครอบ และกราฟฟิกบนถังแบบคลาสสิกแสดงให้ถึงความแตกต่างที่ลงตัวของพื้นโทนสีเข้ม มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ Vivid Black และ Gunship Grey ที่บังโคลนด้านหน้าถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตและดูเล็กกว่า และกระเป๋าสัมภาระด้านข้างยาวแบบมาตรฐานมาแทนที่กระเป๋าสัมภาระแบบในรุ่น Street Glide(R) Special ท่อไอดีแบบ Heavy Breather ที่มีองค์ประกอบเป็นที่กรองอากาศแบบเปิดด้านหน้าเพื่อเสริมทางด้านสมรรถนะ เบาะนั่งแบบเดี่ยวทำให้ Street Glide(R) ST ดูโฉบเฉี่ยวและดุดัน
โช้คหลังใช้เทคโนโลยีอิมัลชัน ที่สามารถปรับค่าได้ง่ายดายด้วยปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียว โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยปรับพรีโหลดแบบไฮดรอลิกเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างลื่นไหล ตะเกียบขนาด 49 มม. พร้อมเทคโนโลยีกันสะเทือนแบบวาล์วโค้งคู่ ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการหน่วงเชิงเส้น (Linear Damping) เพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น นอกจากนี้ยังมีเบรก Reflex(TM) linked Brembo(R) พร้อม ABS เป็นฟีเจอร์มาตรฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ Boom!(TM) Box GTS แบบหน้าจอสีสัมผัส ลำโพงคู่ที่ติดตั้งบนแฟร์ริ่ง และเสาอากาศภายในตัว ระบบควบคุมความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่เพื่อความสะดวกสบายของการขับขี่ในระยะทางไกล ไฟหน้าแบบ Daymaker(R) LED เพิ่มความโดดเด่นด้วยลำแสงสีขาวส่องสว่างบนท้องถนน ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะทำให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีให้อุ่นใจตลอดการขับขี่
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Road Glide(R) ST
รถมอเตอร์ไซค์อันโฉบเฉี่ยวอย่างรุ่น Road Glide(R) ST แสดงถึงสไตล์ของรถมอเตอร์ไซค์แข่ง อย่าง Screamin Eagle(R) Factory และเสริมความดุดันด้วยความแรงของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 องค์ประกอบของสไตล์แบบตะวันตกและตัวรถสีมืด-บรอนซ์ทำให้รถมอเตอร์ไซค์คันนี้ดูโดดเด่นออกมาจากกลุ่ม ความสะดวกสบายของการขับขี่และแฟร์ริ่งแบบทรงฉลามดึงดูดความประทับใจของนักขับขี่ที่ต้องการขับโฉบเฉี่ยวอย่างว่องไวบนถนนเลนกว้าง
แฟร์ริ่งทรงจมูกฉลามแบบแอโรไดนามิกที่มีช่องระบายอากาศแบบแยกส่วนคงที่ (Fixed) สามช่องช่วยลดการกระแทกของศีรษะผู้ขับขี่เมื่อขับรถ แฟร์ริ่งอยู่ใต้กระบังลมสีเข้มระดับต่ำและครอบคลุมส่วนไฟหน้าแบบ Daymaker(R) LED ที่ส่องแสงสว่างออกมาตามเส้นทางขับขี่ การรวมระหว่างการ์ดเครื่องยนต์แบบเตี้ยและถังน้ำมันเข้าด้วยกันเป็นการผสมผสานดีไซน์ที่ลงตัว
เบาะนั่งเดี่ยวโฉมใหม่เผยให้เห็นถึงที่บังโคลนด้านหลังและเพิ่มลุคของการขับขี่ กลิ่นอายสไตล์แบบตะวันตกเริ่มจากกระเป๋ายาวด้านข้างแบบมาตรฐานและที่บังโคลนด้านหน้าแบบตัดขอบ สีดำล้วนจรดทั้งคัน แผงควบคุม เครื่องยนต์ ตลอดจนฝาครอบท่อไอเสียที่สว่างของฝาครอบและครีบกระบอกตัดกับสีดำ ความโดดเด่นที่ตัดกันอีกอย่างคือสีบรอนซ์เข้มแบบด้านบนล้อคอสตอม Progidy, ฝาครอบโยกด้านล่าง, ฝาครอบ สายพาน, ระบบไอดี และลวดลายกราฟฟิกอันคลาสสิกบริเวณถังน้ำมัน รุ่นนี้มีให้เลือก 2 สี คือ Vivid Black และ Gunship Gray ท่อไอดี Heavy Breather ประสิทธิภาพสูงที่ถูกปรับจูน พร้อมชิ้นส่วนตัวกรองอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพที่ของการขับขี่เหนือชั้น
โช้คหลังใช้เทคโนโลยีอิมัลชัน ที่สามารถปรับค่าได้บนปุ่มควบคุมเพียงปุ่มเดียว โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยปรับพรีโหลดแบบไฮดรอลิกเพื่อให้สามารถควบคุมรถได้อย่างลื่นไหล ตะเกียบขนาด 49 มม. พร้อมเทคโนโลยีกันสะเทือนแบบวาล์วโค้งคู่ ช่วยเพิ่มคุณสมบัติการหน่วงเชิงเส้น (Linear Damping) เพื่อการขับขี่ที่ราบรื่น นอกจากนี้ยังมีเบรก Reflex(TM) linked Brembo(R) พร้อม ABS เป็นฟีเจอร์มาตรฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ รุ่น Road Glide ST มาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนต์ Boom!(TM) Box GTS แบบหน้าจอสีสัมผัส ลำโพงคู่ที่ติดตั้งบนแฟร์ริ่ง และเสาอากาศภายในตัว ระบบควบคุมความเร็วแบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยรักษาความเร็วให้คงที่เพื่อความสะดวกสบายของการขับขี่ในระยะทางไกล ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะทำให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีให้อุ่นใจตลอดการขับขี่
ฟีเจอร์ Cornering Rider Safety Enhancements จาก Harley-Davidson(R)
ตัวเลือกสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide(R) ST และรุ่น Road Glide(R) ST ฟีเจอร์ Cornering Rider Safety Enhancements จาก Harley-Davidson(R) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทรงตัวรถได้เป็นอย่างดีเมื่อเข้าโค้ง ฟีเจอร์นี้เหล่านี้ประกอบไปด้วย:
- เบรกที่เชื่อมโยงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
- ระบบ Cornering Enhanced Antilock Braking System (C-ABS)
- ระบบควบคุมการลื่นไถลขณะเข้าโค้งเมื่อใช้งานโหมดStandard และ Rain
- ระบบควบคุมแรงบิดไม่ให้ลื่นไถล
- ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ และระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง (Tyre Pressure Monitoring System: TPMS)
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster(TM) S
รถมอเตอร์ไซค์ Sportster(TM) S จาก Harley-Davidson(R) เป็นรถครุยเซอร์สมรรถนะสูง ที่ได้ผสมผสานพลังอันน่าทึ่งเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสไตล์อันเป็นอมตะ Sportster(TM) S นี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution(TM) Max 1250T ขนาด 121 แรงม้า ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ Sportster(TM) S สามารถควบคุมแรงบิดตามความต้องการ แชสซีของรถคันนี้นั้นมีน้ำหนักเบา ส่วนระบบกันสะเทือนระดับพรีเมียมนั้นช่วยให้รถมีการตอบสนองฉับไว และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสำหรับปี 2022 รุ่นมอเตอร์ไซค์ Sportster(TM) S มีเฉดสีให้เลือกถึงสามสีด้วยกัน ได้แก่ Vivid Black และ 2 สีใหม่ คือ White Sand Pearl และ Mineral Green Metallic
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Pan America(TM) 1250 Special และ Pan America(TM) 1250
นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 รถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งอย่าง Pan America(TM) 1250 Special และ Pan America(TM) 1250 ได้บุกตลาดรถแอดเวนเจอร์อย่างสมศักดิ์ศรี นอกจากนี้ รถมอเตอร์ไซค์ Pan America(TM) 1250 Special ได้กลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ในทวีปอเมริกาเหนือ และได้รับรางวัล Best Adventure Bike และ Motorcycle of the Year จาก Motorcycle.com ทั้งนี้ มอเตอร์ไซค์อเนกประสงค์สุดทน ทรงพลัง และไฮเทค อย่าง Pan America(TM) 1250 ได้รับการออกแบบใหม่ยกเครื่อง เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการเดินทาง และมอบจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยไม่ว่าจะบนถนน หรือบนเส้นทางออฟโร้ด โดยในปีนี้ เราได้ปรับปรุงให้ Pan America(TM) 1250 Special และ Pan America(TM) 1250 มีหน้าจอ TFT ที่ชัดเจนขึ้น เพื่อการมองเห็นข้อมูลของรถต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และขยายเวลาควบคุม Vehicle Hill Hold Control ภายใต้สภาวะปกติจาก 10 วินาทีเป็น 3 ถึง 5 นาที และพิเศษสำหรับ Pan America(TM) 1250 Special คือตัวเลือกสีใหม่อย่าง Fastback Blue/White Sand
ติดตามเรื่องราวและอัปเดตต่าง ๆ จาก Harley-Davidson(R) ในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ได้โดยการติดตาม Harley-Davidson(R) ตามช่องทางต่างๆ ด้านล่างนี้
- www.harley-davidson.com
- FB: @HarleyDavidsonAsia
- IG: @HarleyDavidson_Asia
- YT: Harley-Davidson Asia