WGE มือขึ้น! คว้างานก่อสร้างอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น 2 อาคารของ "โครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ แอท เสนาสเตชั่น" มูลค่า 292.50 ล้านบาท จากบริษัท พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ฟาก "เกรียงศักดิ์ บัวนุ่ม"บิ๊กบอส ระบุกอด Backlog แน่นกว่า 3,061.80 ล้านบาท พร้อมลุยประมูลงานใหม่เต็มพิกัด ประเมินผลงานไตรมาส 1/2565 โตโดดเด่น
นายเกรียงศักดิ์ บัวนุ่ม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวล เกรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ WGE ผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้างอาคารแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการ ชาโตว์ อินทาวน์ แอท เสนาสเตชั่น ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 292,500,000.00 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีผู้ว่าจ้างเป็น บริษัท พระยาพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดยลักษณะงานประเภทก่อสร้างอาคารพักอาศัยสูง 8 ชั้น 2 อาคาร ประกอบด้วย งานโครงสร้าง สถาปัตยกรรม งานระบบประกอบอาคาร งานภูมิสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งภายใน และมีระยะเวลาการก่อสร้าง 12 เดือน
"ในช่วงไตรมาส1/2565 บริษัทฯเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้งานเพิ่มอีก 1 โครงการ ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้(Backlog) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3,061.80 ล้านบาท สนับสนุนผลงานในช่วงต้นปีน่าจะออกมาโดดเด่นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมในการยื่นประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชนมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายยอดงานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท"
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ภาพรวมแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นงานภาครัฐ เช่น งานประเภทโครงสร้างพื้นฐาน หรือ อินฟราสตรัคเจอร์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปิดให้ประมูลมากขึ้น ขณะที่งานภาคเอกชน ในส่วนของบริษัทฯยังมีลูกค้าขนาดใหญ่ในมือที่ต้องการจะขยายงานเพิ่มเติม ทำให้เชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิด-19 มีทิศทางที่ดีขึ้นทางภาคอุตสาหกรรม อสังหาริมริทรัพย์ จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน น่าจะทำให้บริษัทฯ มีงานใหม่ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง ในปี 2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.03 ล้านบาท และมีรายได้จากการก่อสร้างและบริการ จำนวน 1,185.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 327.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 38.21% โดยการปรับตัวสูงขึ้นของรายได้ดังกล่าวเป็นผลมาจากงานในมือค้างรับที่สะสมต่อเนื่องและโครงการใหม่ที่บริษัทฯประมูลได้ในปี 2564 โดยกลุ่มลูกค้างานภาครัฐ คิดเป็นสัดส่วน51.59% ของรายได้จากการก่อสร้างและบริการ ขณะที่รายได้จากงานก่อสร้างกลุ่มภาคเอกชนคิดเป็นสัดส่วน 48.41% ของรายได้