กลุ่ม วายแอลจี โชว์ศักยภาพองค์กรดีเด่นระดับเอเชียแฟซิฟิก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หลัง วายแอลจี บูลเลี่ยน สิงคโปร์ คว้ารางวัลจาก Jewellery World Awards เวทีสำหรับการค้าอัญมณีระหว่างประเทศอีกหนึ่งปี สะท้อนความแข็งแกร่งด้านการเป็นผู้นำตลาดศูนย์รวมบริการทองคำครบวงจร ง่าย ครบ จบในที่เดียว ทั้งซื้อขายทองคำแท่ง ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ บริการซื้อขายในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซื้อขายทองคำรูปพรรณ และผู้ให้บริการออมทองผ่าน www.ylggoldsaving.com พร้อมด้วยนวัตกรรมที่โดดเด่น ทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชั่น YLG Gold Investment สามารถซื้อขายทองคำแท่งออนไลน์ด้วย 5 สกุลเงิน รวมถึงเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวไม่เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งตอนนี้สามารถเทรดได้ทั้งสกุลเงินดอลลาร์และบาท แต่คาดว่าจะสามารถเทรดครบ 5 สกุลเงินได้ภายในไตรมาสแรกของปี ส่วนคำแนะนำลงทุนคาดราคาทองมีทิศทางปรับฐาน มองกรอบแนวรับ 1,895-1,877 แนวต้าน 1,958-1,974
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย กล่าวว่า YLG Group ไม่ได้เพียงเป็นผู้นำธุรกิจนำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน สิงคโปร์ (YLG Bullion Singapore Pte. Ltd.) ที่เป็นตัวแทนของกลุ่ม YLG ดำเนินธุรกิจค้าทองคำแท่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งการดำเนินงานของ วายแอลจี บูลเลี่ยน สิงคโปร์ เติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้ความเป็นธรรมและโปร่งใส จนทำให้สามารถคว้ารางวัลองค์กรโดดเด่นแห่งปี ของภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิก "Outstanding Enterprise of the year-APAC" จากเวที Jewellery World Awards (JWA) 2021 ซึ่ง YLG Bullion Singapore เป็นหนึ่งในหกบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ และยังเป็นบริษัทเดียวจากสิงคโปร์ที่สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรติมาครอบครอง ซึ่งเวที Jewellery World Awards (JWA) ถือเป็นเวทีแห่งการมอบรางวัลอันทรงเกียรติสำหรับการค้าอัญมณีระหว่างประเทศ JWA ได้พยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมอัญมณีระดับโลก และทุกๆ ปี กระบวนการตัดสินนั้นเข็มงวดในการเป็นกลาง โปร่งใส เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าองค์กรและบุคคลที่มีผลงานนั้นจะได้การยอมรับอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้การได้รับเลือกเป็นองค์กรดีเด่นแห่งปี - APAC ของ วายแอลจี บูลเลี่ยน สิงคโปร์ สะท้อนถึงกลุ่ม YLG ในด้านของการเป็นองค์กรที่มีความโดดเด่นที่ให้บริการซื้อขายทองคำได้ครบทุกรูปแบบ ทั้งทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ ที่มีบริการทั้งหน้าร้าน และแบบออนไลน์ มีการจัดส่งที่ปลอดภัย รวมถึงได้พัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยบริการหลักๆดังนี้
YLG Gold Saving บริการออมทองออนไลน์ ที่เป็นอีกหนึ่งบริการที่มีจำนวนลูกค้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2564 ที่ผ่านมามีลูกค้าเติบโตขึ้นถึงเกือบ 50% เนื่องจากสามารถออกแบบได้ตามใจ มีความยืดหยุ่นปรับได้ตามสไตล์รายบุคคล อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงทางการเงิน พร้อมเปลี่ยนเงินให้กลายเป็นทองง่ายๆ ผ่านออนไลน์ 24 ชม. เริ่มต้นเพียง 100 บาท สามารถซื้อขายได้ทันทีที่ต้องการ หรือสะสมครบ 1 กรัม เพื่อแลกกลับเป็นทองก็ทำได้
YLG Gold Investment บริการซื้อขายทองคำออนไลน์เจ้าแรกในประเทศไทยกับแอปพลิเคชั่นที่เทรดทองได้ 5 สกุลเงิน ทั้งดอลลาร์สหรัฐ ,บาท, ดอลลาร์สิงคโปร์, หยวน, ยูโร เทรดเริ่มต้นเพียง 1 ออนซ์ หรือประมาณ 60,000 บาท สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมอัปเดตราคาแบบเรียลไทม์ตามราคาตลาดโลก
YLG Futures x CME Group บริการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ระดับโลกที่นักลงทุนต่างประเทศให้การยอมรับ ด้วยการเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยที่เทรดผ่าน YLG Futures เข้าถึงบริการทุกสินค้าของ CME Group ซึ่งเป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกผ่านระบบเทรด CQG เทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงไม่เว้นวันหยุดของประเทศไทย
YLG Precious บริการให้แก่ลูกค้าสั่งซื้อทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณผ่านระบบออนไลน์ราคา Real-Time ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจัดส่งสินค้า ง่าย สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยสูง สั่งซื้อได้ที่ www.ylgprecious.co.th
อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อทองคำในช่วงนี้ YLG มีคำแนะนำขึ้นขาย-ลงซื้อ และเน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นหลัก มองระยะกลางอยู่ในลักษณะของการปรับฐาน ส่วนระยะยาวยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นตราบใดที่ยังยืนเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีคำแนะนำนักลงทุนใช้จังหวะที่ราคาดีดตัวระยะสั้นในการแบ่งทองคำออกขาย และการปรับฐานของราคาถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อหลังจากนักลงทุนขายทำกำไรทองคำออกไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา ระยะสั้นมองแนวรับที่ 1,895-1,877 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านที่ 1,958-1,975 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 30,000-31,000 บาทต่อบาททองคำ