สร้าง Robot เทรดอัตโนมัติ ด้วยกลยุทธ์ Trend Following

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 28, 2022 08:29 —ThaiPR.net

สร้าง Robot เทรดอัตโนมัติ ด้วยกลยุทธ์ Trend Following

หาก Jarvis คือโปรแกรมอัจฉริยะที่ช่วย Ironman ต่อสู้ Robot Trade ก็เป็นอาวุธที่ช่วยนักลงทุนสร้างกำไรและอยู่รอดในตลาดได้เหมือนกัน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวเข้าสู่โลกการลงทุนอีกรูปแบบ TFEX จึงได้จัด Workshop "Robot Trade อาวุธ (ไม่) ลับ สร้างกำไรได้ ด้วยระบบเทรดอัตโนมัติ" นี้ขึ้นมาให้คุณได้รู้จักกับอาวุธชิ้นนี้และเข้าใจการทำงานของ Robot Trade กันเริ่มประเดิมกันที่หัวข้อแรก "สร้าง Robot เทรดอัตโนมัติด้วยกลยุทธ์ Trend Following" ซึ่งได้รับเกียรติจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ. ท๊อปเทรดเดอร์ คุณจิระเดช คูหากาญจน์ มาบรรยายให้ฟัง รวมทั้งสอนวิธีเริ่มต้นการใช้งาน Robot Trade แบบง่ายๆ ให้นักลงทุนทั้งมือใหม่และเก่าได้ลองไปฝึกฝนและสร้างเงื่อนไขของ Robot Trade กัน เนื้อหาจะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปดูกันเลย

Robot Trade คือการซื้อขายสินค้าด้วยระบบอัตโนมัติผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยให้ความสำคัญไปที่ "ความเสี่ยง" เป็นหลัก ซึ่งระบบสามารถจะคิดและวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ของการเทรดต่างๆ ได้แบบไม่มีเรื่อง Emotion มาเกี่ยวข้อง ดังนั้น จึงสามารถตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าควร Stop Loss หรือ Take Profit ตอนไหน หรือ Trailing Stop เมื่อไร โดยปัจจุบันการนำ Robot Trade มาใช้งานนั้นมีข้อดีและอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน ซึ่งในไทยยังมีจำนวนผู้ใช้งานค่อนข้างน้อยและส่วนใหญ่จะใช้งานในตลาดอนุพันธ์มากกว่า 

กลยุทธ์ของ Robot Trade นั้นมีหลายรูปแบบแต่ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ Algorithmic Trading ซึ่งเป็นการกำหนด Logic การเทรดออกมาในรูปแบบของชุดคำสั่ง และจะมีเงื่อนไขรวมถึงข้อกำหนดในการเทรดไว้ตามที่เราตั้งค่า ซึ่งในโปรแกรม MT4 นี้เราสามารถใช้ Robot Trade ง่ายๆ ได้ อย่างเช่น Smart Port ด้วยการใส่ Logic และ Indicator ต่างๆ โดยขั้นตอนแรกนั้นเราต้องทำความรู้จักกับหน้าตาของโปรแกรมก่อนว่ามีอะไรบ้าง

เริ่มที่สมองส่วนกลางของ Robot

  • Account Info
  • Robot Info
  • Your Robot's
  • Rebalancing

จะทำหน้าที่บริหารจัดการวงเงินของ Robot ให้เทรดได้ตามขอบเขตที่เรากำหนดวงเงินไว้ จะไม่สามารถ Overtrade และยังสามารถ Rebalancing หรือปรับสัดส่วนการลงทุนให้กับพอร์ตตามกำไรที่เรากำหนดได้เพื่อสร้าง Cash Flow ทำให้บริหารจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น 

  • Symbol List

คือข้อมูลสินค้าที่เราสามารถเพิ่มสินค้าเข้าไปให้ Robot มอนิเตอร์ดูแลสินค้าตัวนั้นๆ เมื่อเข้าเงื่อนไขตามที่เราตั้งถึงจะยิงคำสั่งเข้าไป ซึ่งสามารถสั่งออเดอร์ได้ตามรูปแบบที่กำหนด เช่น แค่ Open Long เท่านั้น หรือสั่งให้ยิงได้ทั้ง Open Long & Short ก็ได้

  • Logic List

เป็นการออกแบบเงื่อนไขการเข้าหรือออก Order ตาม Indicator, Candlestick, Price และ Time ที่กำหนด โดยมีตัวอย่างดังนี้

Indicator เช่น

  • MA Short cross MA Long เป็น Moving Average โดยใช้เส้น Timeframe สั้น ตัดเส้น Timeframe ที่ยาวกว่า เป็นสัญญาณการซื้อขาย
  • MA cross Price ใช้ราคาและ Moving Average อีก 1 เส้นมาตัดกัน หากราคาอยู่เหนือเส้นนี้ ก็จะเข้าเงื่อนไขการเปิดสถานะซื้อ
  • Bollinger Band ถ้าราคาทะลุขึ้นปิดเหนือเส้น Upper Band ก็จะทำการเปิด Long ตรงกันข้ามหากราคาตกลงมาปิดต่ำกว่า Lower Band ก็เปิดสถานะ Short ตามคำสั่งที่ตั้งไว้
  • Parabolic SAR ที่จะเปิดสถานะซื้อเมื่อเกิดจุดไข่ปลาแรกใต้แท่งราคา
  • โดยเราสามารถกำหนด Indicator หลายๆ ตัวได้ ว่าต้องให้เข้าเงื่อนไขพร้อมกันหรือแค่ตัวใดตัวหนึ่งถึงจะให้ Robot ทำการส่งคำสั่งเข้าไป

    Candlestick 

    ให้ Robot ส่งคำสั่งเมื่อแท่งเทียนเข้ารูปแบบตามที่เรากำหนด เช่น อยากใช้รูปแบบ Hammer (แท่งเทียนที่มีหางยาว) โดยเราสามารถกำหนดความยาวของแท่งเทียนได้ หากราคาวิ่ง มีแรงซื้อแรงขายจนเกิดไส้แท่งเทียนที่มีความยาวตามค่าที่เรากำหนดไว้ถึงจะส่งคำสั่ง หรือกำหนดรูปแบบของแท่งเทียนเป็นแบบอื่นๆ เพื่อซื้อตามเทรนด์ก็ทำได้ตามที่เราต้องการ ซึ่งเรายังสามารถนำ Indicator และ Candle Stick เข้ามาผสมรวมกันเพื่อทำเป็น Logic ได้ ก็จะทำให้การเทรดหลากหลายมากขึ้น

    Price 

    จะส่งคำสั่งหากราคาปัจจุบันวิ่งทะลุสูงหรือต่ำกว่าช่วงก่อนหน้านี้ เช่น หากตั้งค่ากราฟแท่งเทียนเป็นราย Daily แล้วราคาล่าสุดปิดสูงกว่าแท่งก่อนหน้านี้ 10 วัน ในลักษณะ Higher High ก็ให้ระบบทำการส่งคำสั่งซื้อเข้ามา ซึ่งเป็นลักษณะของการ Follow Trend เช่นกัน

    • Risk Control

    Setting Order Buy/Sell

    เป็นการตั้งค่าจำนวนการซื้อหรือขายในแต่ละครั้ง ซึ่งต้องสอดคล้องกับวงเงินที่เราได้ตั้งไว้ให้กับ Robot แต่ละตัวโดยต้องไม่ Overtrade ด้วย และยังสามารถกำหนดปริมาณการส่งคำสั่งหากเข้าเงื่อนไขในครั้งถัดไปได้ รวมถึงสามารถตั้ง Stop Loss, Take Profit และ Trailing Stop ตาม Tick Size หรือเปอร์เซ็นตามที่เรากำหนดได้

    โดยในการเทรดจริงเราสามารถออกแบบ Double Algorithm ให้ Robot A และ Robot B ทำงานไปพร้อมกันได้ การตั้ง Logic เงื่อนไขระหว่าง Robot สองตัวจะเป็นอิสระต่อกัน ทำให้สามารถเล่น Timeframe ต่างกันและกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น ซึ่งเวลา Robot ปิดออเดอร์นั้นก็สามารถแยกปิดสถานะเป็นไม้ๆ ได้ ไม่ต้องบังคับปิดแบบ First in First out 

    วิธีสั่งให้ Robot Back Testing ในโปรแกรม MT4

  • กำหนดวงเงิน
  • กำหนดฝั่ง เลือก Long หรือ Short
  • เลือก Symbol สินค้าที่จะทดสอบ
  • เลือก Timeframe ที่ต้องการ
  • เลือก Model ในการรันคำสั่งซึ่งมี 3 ตัวเลือก ถ้าต้องการทดสอบแบบเร็วๆ ก็จะเป็น Open Price Model จนถึงถ้าต้องการทดสอบแบบละเอียด ก็เลือกเป็น Every Tick Model 
  • เลือกช่วงวันที่ต้องการทดสอบ
  • คลิก "ตกลง" ให้ระบบทดสอบ
  • โดยเราสามารถเห็นจุดที่ Robot เปิด/ปิดสถานะ ตัวเลขกำไรขาดทุนในแต่ละครั้งตามช่วงเวลาและ Equity Curve ที่ Robot สามารถทำได้ ซึ่ง Report ที่แสดงในโปรแกรมของ MT4 จะหักค่าธรรมเนียมการซื้อขายไปให้แล้ว

    สรุปภาพรวมในการสร้าง Robot Trade เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและทำกำไรให้พอร์ต

  • เทรดเดอร์ที่ดีควรออกแบบ Robot ที่มี Logic การเทรดที่ชัดเจน
  • Back Testing กับข้อมูลในอดีตเพื่อหาสัดส่วน Profit/Loss ที่สามารถไปต่อได้
  • Forward Testing โดยใช้เงินสมมติรันต่อในตลาดจริง เพื่อดูสถิติและผลตอบแทน
  • รับชมย้อนหลัง Workshop "สร้าง Robot เทรดอัตโนมัติด้วยกลยุทธ์ Trend Following" ได้ที่ https://setga.page.link/uEUtrSGmyCckKhbdA


    แท็ก Trade   TFEX   BOT  

    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ