บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ("STA" หรือ "บริษัทฯ") ผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดินหน้าขยายกำลังการผลิตยางแท่งอีก 1.4 แสนตันในโรงงานเดิมที่จังหวัดพิษณุโลกและสกลนครแล้วเสร็จ ดันกำลังการผลิตยางทุกประเภทรวมเพิ่มเป็น 2.96 ล้านตันต่อปี ชูเทคโนโลยีการผลิตระบบออโตเมชั่นเพิ่มศักยภาพการผลิต
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายกำลังการผลิตยางแท่งภายในโรงงานเดิมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและสกลนครอีก 1.4 แสนตันต่อปี (โรงงานละ 70,000 ตันต่อปี) ล่าสุดได้ดำเนินการแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อยทั้ง 2 โรงงาน ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตรวม (ยางทุกประเภท) เพิ่มขึ้นเป็น 2.96 ล้านตันต่อปี โดยโครงการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตยางแท่งใน 14 โรงงานเดิมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้
การเพิ่มกำลังผลิตยางแท่งภายในโรงงานทั้ง 2 แห่งดังกล่าว มีจุดเด่นด้านการนำเทคโนโลยีระบบออโตเมชั่นเข้ามาประยุกต์ครอบคลุมทุกกระบวนการผลิต ครอบคลุมตั้งแต่การรับวัตถุดิบ การอบยาง การคัดแยกเกรดของยาง ระบบเซ็นเซอร์ตรวจสอบคุณภาพ การบรรจุยาง ตามนโยบายบริษัทฯ ที่ต้องการยกระดับโรงงานให้มีเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าไปอีกขั้น ช่วยลดการเพิ่มแรงงานใหม่ได้อย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลดีต่อปริมาณการผลิตยางต่อคน ต่อปีที่เพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทฯ มีความสามารถการผลิตยาง 23 ตันต่อคนต่อปี ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 35 ตันต่อคนต่อปี
ปัจจัยที่บริษัทฯ เดินหน้าขยายกำลังการผลิตยางแท่ง เนื่องจากเห็นโอกาสเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางในประเทศไทยและตลาดโลก ซึ่งเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัว ประกอบกับราคาเฉลี่ยยางแท่ง TSR20 ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของประเทศสิงคโปร์ล่าสุด ยังอยู่ในระดับที่ดีราว 175 เซนต์ต่อกิโลกรัม สะท้อนถึงดีมานด์ในอุตสาหกรรมยางที่ยังแข็งแกร่ง โดยมีปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อคือการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ จากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดการซื้อรถใหม่และความต้องการใช้ยางเพื่อผลิตยางล้อเพิ่มขึ้น
"เราเดินหน้าขยายกำลังการผลิตยางแท่งอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาส 2 - 4 ของปี 2565 จะทยอยขยายกำลังการผลิตภายในโรงงานเดิมแล้วเสร็จอีก 4 แห่ง ได้แก่ โรงงานบึงกาฬ, ตรัง, กาฬสินธุ์และสระแก้ว จะมีกำลังการผลิตยางแท่งเพิ่มขึ้นอีกกว่า 4.9 แสนตันต่อปีจากทั้ง 4 โรงงาน ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 จะมีกำลังการผลิตรวม (ยางทุกประเภท) เพิ่มขึ้นเป็น 3.45 ล้านตันต่อปี เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการเพิ่มส่วนแบ่งอุตสาหกรรมยางในตลาดโลกเป็น 12% จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 10%" นายวีรสิทธิ์ กล่าว