กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
อะโดบี ซิสเต็มส์ อิงค์ (Nasdaq:ADBE) เปิดตัวซอฟต์แวร์ Adobe? AIR? และ Adobe? Flex? 3 ซึ่งผลักดันแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของอะโดบีสำหรับริชอินเทอร์เน็ตแอพพลิเคชั่น (Rich Internet application - RIA) นักพัฒนาและนักออกแบบใช้เทคโนโลยี Adobe RIA เพื่อสร้างและปรับใช้คอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นที่มีลูกเล่นหลากหลายได้อย่างรวดเร็ว การเปิดตัว Adobe AIR บ่งบอกถึงคลื่นลูกใหม่ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมบน Adobe RIA ด้วยการแก้ไขปัญหาช่องว่างระหว่างความสามารถแบบไดนามิกในลักษณะเรียลไทม์ของเว็บกับพลังการประมวลผลและความสามารถทางด้านข้อมูลของเดสก์ทอป องค์กรธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากเว็บในฐานะแพลตฟอร์มกำลังใช้เทคโนโลยี Adobe RIA รุ่นล่าสุดเพื่อสร้างและปรับใช้แอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจกว่า โดยเข้าถึงเบราว์เซอร์ เดสก์ทอป และระบบปฏิบัติการได้หลากหลายที่สุด
“ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา อะโดบีนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีให้แก่ลูกค้าของเรา โดยเริ่มต้นจากระบบเดสก์ทอปพับบลิชชิ่ง และขยายไปสู่มัลติมีเดียและเว็บ” เควิน ลินช์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของอะโดบี กล่าว “ตอนนี้เรามุ่งมั่นพัฒนาประสบการณ์ดิจิตอลแห่งอนาคต โดยเปิดโอกาสให้ลูกค้าของเราสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นที่มีความสามารถทางด้านอินเทอร์แอคทีฟที่เหนือกว่า ตอนนี้นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับอะโดบี สำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางด้านซอฟต์แวร์ และสำหรับนักออกแบบและนักพัฒนาที่กำลังขับเคลื่อนการพัฒนาเว็บให้ก้าวไปข้างหน้า”
ผู้นำอุตสาหกรรมยอมรับเทคโนโลยี Adobe RIA อย่างกว้างขวาง
บริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมบันเทิง การเงิน สื่อ ค้าปลีก เครือข่ายทางสังคม ให้การยอมรับและปรับใช้เทคโนโลยี Adobe RIA อย่างแพร่หลาย โดย Deutsche Bank, The Nasdaq Stock Market, Inc. และ The New York Times Company รวมทั้งบริษัทอื่นๆ ใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของอะโดบีสำหรับ RIA เพื่อช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ดูข่าวประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่ในวันนี้)
“อะโดบีมุ่งเน้นการปรับปรุงประสบการณ์ทางด้านเว็บและการนำเสนอเทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อรองรับการสร้างเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่มีลักษณะอินเทอร์แอคทีฟมากขึ้น โดยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของอะโดบีสำหรับ RIA สามารถตอบสนองความต้องการของบริษัทต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม” อัล ฮิลวา ผู้อำนวยการโครงการของไอดีซี กล่าว “RIA ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าและเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น สำหรับแอพพลิเคชั่นทางด้านอีคอมเมิร์ซ การแสดงภาพผลิตภัณฑ์ที่สวยงามจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสินค้าที่ต้องการซื้อได้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้าหันมาใช้บริการออนไลน์กันมากขึ้น ทั้งยังสามารถเพิ่มขนาดออเดอร์เฉลี่ยด้วยการเสนอขายสินค้าชนิดอื่นเพิ่มเติมหรือเสนอขายสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้น”
นอกจากนี้ อะโดบีนำเสนอแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่สร้างด้วย Adobe Flex และปรับใช้บน Adobe AIR เช่น Adobe Media Player รุ่นทดลองใช้งาน ซึ่งผสานรวมโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถรับชมรายการโปรดได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังมี Buzzword ซึ่งเป็นโปรแกรมเวิร์ดโปรเซสซิ่งแบบออนไลน์ที่รองรับการทำงานร่วมกัน
แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของอะโดบีสำหรับ RIA
ซอฟต์แวร์ Adobe AIR, Adobe Flex และ Adobe Flash? Player เป็นรากฐานแพลตฟอร์มเทคโนโลยีของอะโดบีสำหรับ RIA ทั้งนี้ เทคโนโลยี Adobe RIA ประกอบด้วยเครื่องมือ กรอบโครงสร้าง เซิร์ฟเวอร์ บริการ และรันไทม์ ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน โดยรองรับการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าสนใจและเข้าถึงอุปกรณ์ได้หลากหลายที่สุด มีทรัพยากรการเรียนรู้มากมายที่ Adobe Developer Connection (developer.adobe.com) ซึ่งจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถเริ่มสร้าง RIA สำหรับเบราว์เซอร์และเดสก์ทอปได้ทันที
Adobe AIR ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง RIA บนเดสก์ทอป โดยใช้ทักษะและเทคโนโลยีเว็บ เช่น HTML, Ajax, PDF, Adobe Flash และ Adobe Flex ซึ่งนักพัฒนาใช้เทคโนโลยีเหล่านี้อยู่แล้วในปัจจุบัน แอพพลิเคชั่นที่ปรับใช้บน Adobe AIR มีข้อดีของ RIA ที่ใช้กับเบราว์เซอร์ เช่น ความรวดเร็วในการพัฒนา ความสะดวกในการใช้งานและเข้าถึงได้จากทุกที่ นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์เหมือนกับเดสก์ทอปแอพพลิเคชั่น เช่น ความสามารถในการเขียน/อ่านไฟล์ภายในเครื่อง การทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นอื่นๆ บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ และการจัดเก็บข้อมูลภายในเครื่องไว้บนเดสก์ทอป
Flex เป็นกรอบโครงสร้างแบบโอเพ่นซอร์ส (Open Source) ที่ใช้งานได้ฟรี โดยรองรับการสร้าง RIA แบบอินเทอร์แอคทีฟขั้นสูง Adobe Flex Builder? 3 ซึ่งเป็นเครื่องมือพัฒนาบน Eclipse? จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Flex และประกอบด้วยความสามารถใหม่ๆ สำหรับการปรับใช้ RIA บนแพลตฟอร์ม Adobe AIR ทั้งนี้ Adobe Flex Builder 3 ผนวกรวมเข้ากับซอฟต์แวร์ Adobe Creative Suite? 3 เพื่อเพิ่มควมสะดวกให้แก่นักออกแบบและนักพัฒนาในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือทดสอบใหม่ๆ ที่ทรงพลัง เช่น โปรแกรมสร้างโปรไฟล์สำหรับหน่วยความและประสิทธิภาพ และการสนับสนุนการทดสอบฟังก์ชั่นแบบอัตโนมัติ จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการพัฒนา และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ RIA
Adobe Flash Player ซึ่งเข้าถึงกว่า 98 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องพีซีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมทั้งอุปกรณ์พกพาและอุปกรณ์รับสัญญาณอีกหลายร้อยล้านเครื่อง ให้ทางเลือกที่เหนือกว่าสำหรับงานสร้างสรรค์ พร้อมด้วยประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจ คุณภาพเสียง/วิดีโอที่เป็นเลิศ และการค้นหาที่ครบวงจร
ส่วนประกอบสำคัญของ Adobe AIR เช่น เอ็นจิ้น WebKit HTML, Tamarin ActionScript? Virtual Machine และฟังก์ชั่นฐานข้อมูลแบบโลคัล SQLite เป็นโอเพ่นซอร์สทั้งหมด ทั้งนี้ อะโดบีมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนชุมชนโอเพ่นซอร์สด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การเผยแพร่กรอบโครงสร้าง Flex แบบโอเพ่นซอร์สโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ รวมถึง BlazeDS แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการเชื่อมต่อข้อมูลความเร็วสูง และอะโดบีเป็นสมาชิกที่มีบทบาทอย่างจริงจังใน SQLite Consortium โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ opensource.adobe.com
ราคาและการวางจำหน่าย
Adobe AIR และ Adobe AIR SDK สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ โดยใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ Windows? และ Macintosh ส่วนเวอร์ชั่นต่อไปคาดว่าจะรองรับ Linux และภาษาอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม คลิกไปที่ www.adobe.com/go/air
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Adobe Flex 3 พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ Windows และ Macintosh ส่วน Flex 3 SDK แบบโอเพ่นซอร์สสามารถใช้งานได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากนี้ ยังสามารถขอรับ Adobe Flex Builder 3 for Linux เวอร์ชั่นทดลองได้ฟรีจาก Adobe Labs (labs.adobe.com) อีกด้วย Adobe Flex Builder 3 มีวางจำหน่ายในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ติดตั้งแยกต่างหาก หรือเป็นโปรแกรมเสริมสำหรับ Eclipse โดยเอดิชั่น Standard ราคา 10,004.3 บาท และเอดิชั่น Professional ราคา 28,030.9 บาท หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดของระบบและแพลตฟอร์มที่รองรับ คลิกไปที่ www.adobe.com/go/flex*