APCO รุกธุรกิจ ด้วยเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) เดินหน้าขยายฐานผลิตภัณฑ์ HIV มะเร็ง ผ่านช่องทางออนไลน์ จัดตั้งธุรกิจอาหารเสริมสัตว์เลี้ยง ตั้งเป้ายอดขาย 10 ล้านบาท เตรียมส่งออกไต้หวันและอเมริกา เปิดโครงการทูตสุขภาพแอปโก้ แนะนำนวัตกรรมสูตรวัฒนชีวา ลุ้นรับสมนาคุณมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ผลักดันผลประกอบการปี 65 เติบโตไม่น้อยกว่า 50% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%
ศ.ดร. พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO เจ้าของธุรกิจนวัตกรรมธรรมชาติเพื่อสุขภาพและความงามด้วยการวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายครบวงจร เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ในการกระตุ้นเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ด้วยสารสกัดจากพืชกินได้ เป็นหลักการในการพัฒนาสูตรภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับผู้ติดเชื้อ HIV ให้ตรวจไม่พบเชื้อเป็นครั้งแรกของโลกและสำหรับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งทุกส่วนของร่างกาย จัดการปัญหามากว่า 2,000 ราย
ล่าสุดสามารถใช้เทคโนโลยีในการสกัดปรับปรุงสูตรภูมิคุ้มกันบำบัด ให้มีเซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) เพิ่มขึ้นในระดับที่เหมาะในการใช้เป็นภูมิคุ้มกันบำบัดโรคแต่ละชนิด APCO จึงได้มุ่งเน้นการใช้เซลล์ทีพิฆาต (Killer T Cell) ในการขยายธุรกิจ ดังต่อไปนี้
สำหรับธุรกิจที่ดำเนินการอยู่แล้ว บริษัทวางแผนขยายตลาดด้วยความสำเร็จจากการใช้ภูมิคุ้มกันบำบัด HIV ซึ่งประกาศไปแล้วว่าเป็นความสำเร็จครั้งแรกของโลก ในการทำให้ผู้ติดเชื้อตรวจไม่พบเชื้อโดยไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส และมีสุขภาพแข็งแรงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะทำให้มียอดจำหน่ายจากนวัตกรรมนี้จะเพิ่มขึ้น 50% จากปีที่แล้ว
ส่วนที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็ง บริษัทมุ่งเนินทำการตลาดออนไลน์ครบวงจร รวมทั้งการเปิดศูนย์ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยทางออนไลน์ โดยคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ, นักวิทยาศาสตร์ และเภสัชกร ในทุกๆ สัปดาห์ คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดจำหน่ายจากนวัตกรรมนี้ได้ต่อไป
ขณะเดียวกัน นวัตกรรมสูตรวัฒนชีวา ที่ทำให้เกิดการย้อนวัย ชะลอวัย และอายุยืนและมีสุขภาพที่ดีบริษัทเปิดโครงการ ทูตสุขภาพแอปโก้ (AHA : APCO Health Ambassador) แนะนำนวัตกรรมให้ผู้ที่รักและปรารถนาดี พร้อมมอบสมนาคุณประมาณ 2,000,000 บาท ให้สำหรับทูตสุขภาพที่แนะนำผู้บริโภคได้ครบ 1,000 ราย วิธีการนี้จะทำให้มีผู้บริโภคต่อเนื่องครบ 20,000 รายได้อย่างรวดเร็ว หากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ คาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น 3 เท่า
ส่วนการดำเนินการธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทยังคงติดตามและสนับสนุนพันธมิตรให้เพิ่มยอดจำหน่ายอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน และเริ่มสนับสนุนพันธมิตรที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศอินโดนีเซียให้สามารถเพิ่มยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สร้างภูมิคุ้มกันต่อไปให้รวดเร็วขึ้นเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลงและเอื้อต่อการขนส่งสินค้าให้สะดวกยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หากการดำเนินงานดังกล่าว ได้รับผลสำเร็จเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดกว่าผลประกอบการของบริษัทปี 2565 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 50% รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 80%