บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) ของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันระยะกลาง (Guaranteed Medium Term Note Programme) ของบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MBTh โครงการที่ 2 (MTN-2) มูลค่าไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท และโครงการ ที่ 3 (MTN-3) มูลค่าไม่เกิน 2.0 หมื่นล้านบาท รวมถึงหุ้นกู้มูลค่า 7.4 พันล้านบาท ที่อยู่ภายใต้โครงการหุ้นกู้ดังกล่าว ซึ่ง ได้รับการค้ำประกันจากบริษัทแม่ ได้แก่ Mercedes-Benz Group AG (MBG, 'A-/Stable') ที่ระดับ 'AAA(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
ค้ำประกันโดย MBG: อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันดังกล่าวสะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จาก MBG (เดิมชื่อ บริษัท เดมเลอร์ เอจี) โดยหนี้จากการค้ำประกันมีสถานะทางกฏหมายเท่าเทียมกับหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิอื่นๆ ของ MBG อันดับเครดิตของ MBG อยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศ (Long-Term Local Currency IDR) ของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในระดับ 'BBB+' ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันดังกล่าวจึงถูกจำกัดอยู่ที่อันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศสูงสุดที่ระดับ 'AAA(tha)'
การกำหนดอันดับเครดิตโดยสรุป
อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันของ MBTh สะท้อนถึงการได้รับการค้ำประกันในลักษณะเต็มจำนวน ไม่มีเงื่อนไข และไม่สามารถยกเลิกได้จาก MBG
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
- อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันนี้ ที่ระดับ 'AAA(tha)' เป็นอันดับเครดิตภายในประเทศที่สูงที่สุดแล้ว
ปัจจัยลบ: - อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการหุ้นค้ำประกันอาจถูกปรับลดได้ ถ้าอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ MBG ลดลงต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินในประเทศของประเทศไทย
ส่วนปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตสากลระยะยาวในอนาคตของ MBG ตามที่แสดงใน Rating Action Commentary ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 ได้แก่
ปัจจัยบวก:
- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้ของกลุ่ม (Group Operating Margin) ที่สูงกว่าร้อยละ 8 (ปี 2563: ร้อยละ 4.7, คาดการณ์ปี 2564 ร้อยละ 10.6, คาดการณ์ปี 2565 ร้อยละ 10.1)
- อัตราส่วนกระแสเงินสดสุทธิต่อรายได้ (Free cash flow margin) ที่สูงกว่าร้อยละ 3 (ปี 2563: ร้อยละ 5.5, คาดการณ์ปี 2564 ร้อยละ 7.6, คาดการณ์ปี 2565 ร้อยละ 3.6)
ปัจจัยลบ:
- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้ของกลุ่ม (Group Operating Margin) ที่ต่ำกว่าร้อยละ 5
- อัตราส่วนกระแสเงินสดสุทธิต่อรายได้ (Free cash flow margin) ที่ต่ำกว่าร้อยละ 1.5
- อัตราส่วนหนี้สิน FFO leverage ที่สูงกว่า 1.5 เท่า (สิ้นปี 2563: 1.3 เท่า, คาดการณ์สิ้นปี 2564: 0.7 เท่า, คาดการณ์สิ้นปี 2565: 0.7 เท่า) และ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิ FFO net leverage ที่สูงกว่า 0.5 เท่า (สิ้นปี 2563: -0.4 เท่า, คาดการณ์สิ้นปี 2564: -0.6 เท่า, คาดการณ์สิ้นปี 2565: -0.8 เท่า)
สภาพคล่อง
บริษัทแม่มีสภาพคล่องอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง: สภาพคล่องของ MBG ได้รับการสนับสนุนจากเงินสดในมือจำนวน 2.2 หมื่นล้านยูโร และหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงจำนวน 5.3 พันล้านยูโร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564 ซึ่งไม่นับรวมเงินสดที่มีภาระผูกพัน จำนวน 3.2 พันล้านยูโร และรายการปรับปรุงสำหรับธุรกิจให้บริการทางการเงินจำนวน 1.1 หมื่นล้านยูโร ตามหลักเกณฑ์ของฟิทช์ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินหลายแห่ง (ครบกำหนดปี 2568) จำนวนรวมทั้งหมด 1.1 หมื่นล้านยูโร ซึ่งยังไม่ได้เบิกใช้ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2564
MBG มีประวัติการถือครองเงินสดที่มากกว่าหนี้สินตลอดวัฏจักรของธุรกิจ และมีโครงสร้างหนี้สินและการกระจายแหล่งเงินทุนที่ดี ได้แก่ ตราสารหนี้ เงินกู้ธนาคาร ตราสารประเภท Securitisation ตราสารหนี้ระยะสั้น และเงินฝาก MBG ยังมีความสามารถในการเข้าถึงตลาดพันธบัตรยูโรในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 โดยบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกพันธบัตรจำนวน 1.5 พันล้านยูโร อายุ 5 ปี เมื่อเดือนเมษายน 2563
ในประเทศไทย MBTh มีหนี้ที่ครบกำหนดชำระในปี 2565 จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากเงินสดในมือจำนวน 2.9 พันล้านบาท และวงเงินสินเชื่อแบบ uncommitted ที่ยังไม่ได้เบิกใช้ จำนวน 2.8 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2564 นอกจากนี้ MBTh ยังมีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารและตลาดทุน โดยมีบริษัทแม่ที่แข็งแกร่งให้การสนับสนุน ภาระหนี้ต่อเจ้าหนี้ภายนอก ณ สิ้นปี 2564 ประกอบด้วย หนี้เงินกู้ธนาคารสัดส่วนร้อยละ 72 และหุ้นกู้สกุลเงินบาทสัดส่วนร้อยละ 28 โดยหนี้ทั้งหมดได้รับการค้ำประกันโดย MBG หนี้สินส่วนใหญ่ของบริษัทฯ ใช้สำหรับการขยายธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ของบริษัทในกลุ่ม
ข้อมูลบริษัท
MBTh เป็นบริษัทที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยบริษัทแม่ในประเทศเยอรมัน คือ MBG ซึ่งเป็นผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำระดับโลกในกลุ่มตลาดรถหรู MBTh เป็นบริษัทย่อยของ MBG ที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในการจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ การประกอบรถยนต์ภายในประเทศผ่านบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ผ่านบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง ประเทศไทย จำกัด
อันดับเครดิตที่เกี่ยวโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของโครงการหุ้นกู้ค้ำประกันของ MBTh เกี่ยวโยงกับอันดับเครดิตสากลระยะยาวของ MBG