มกอช. หารืออาเซียนเสริมความเข้มแข็งระบบ ARASFF พร้อมชงประเทศสมาชิก ใช้ระบบ QR Trace พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับของอาเซียน
นายพิศาล พงศาพิชณ์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. ได้มอบหมายให้นางสาวรวินันท์ ฉ่ำเฉลิม ผู้อำนวยการกองนโยบายมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหาร หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ในการประชุม ARASFF National Focal Points ครั้งที่ 9 พร้อมด้วยนายสัญชัย ตันตยาภรณ์ ที่ปรึกษา มกอช. หัวหน้าคณะฝ่ายไทย ในการประชุม ARASFF Steering Committee ครั้งที่ 7 เข้าร่วมการประชุมหารือ the 9th ARASFF NCP & the 7th ARASFF SC Meetings ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-5 เมษายน 2565 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารและอาหารสัตว์
นายพิศาล กล่าวว่า การประชุมดังกล่าว ประเทศไทยในฐานะผู้ดูแลระบบ (ARASFF Admin) รายงานผลการใช้งานระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารและอาหารสัตว์ของอาเซียน (ARASFF) ตั้งแต่เริ่มจัดตั้งระบบในปี 2551 จนถึงปัจจุบัน โดยมีรายการแจ้งเตือนทั้งหมดในระบบจำนวน 352 รายการ จากประเทศมาเลเซีย 232 รายการ ประเทศไทย 55 รายการ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย 33 รายการ สิงคโปร์ 4 รายการ และฟิลิปปินส์ 1 รายการ
ทั้งนี้ ประเทศไทยได้ขอให้สมาชิกอาเซียนเพิ่มการแจ้งเตือนข้อมูลความปลอดภัยด้านอาหารและอาหารสัตว์ในระบบ ARASFF รวมทั้งร่วมกันผลักดันให้การแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยอาหารของอาเซียนเป็นภาคบังคับ ซึ่งประเทศสมาชิกอาเซียนจะได้รับทราบข้อมูล และจัดการความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็ว และเป็นไปตามหลักความโปร่งใสของ WTO/SPS
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือความคืบหน้าของแผนปฏิบัติงานภายใต้ ARASFF ซึ่งประเทศไทยในฐานะผู้ดูแลระบบ (ARASFF Admin) ได้นำเสนอแนวทางการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างระบบแจ้งเตือนระดับประเทศกับระบบแจ้งเตือนของอาเซียน เพื่อช่วยลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและลดข้อผิดพลาดในการใส่ข้อมูล โดยปัจจุบัน มกอช. อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเพื่อเชื่อมต่อระบบของไทยกับระบบของอาเซียน คาดว่าจะแล้วเสร็จและทดลองเชื่อมต่อได้ภายในปี 2566 ซึ่งสมาชิกอาเซียนหลายประเทศได้แสดงความสนใจต่อแนวทางการเชื่อมต่อที่ไทยเสนอ โดยเมื่อไทยทดลองเชื่อมต่อระบบได้สำเร็จแล้ว ผู้ดูแลระบบจะดำเนินการให้ประเทศผู้สนใจสามารถทดลองเชื่อมต่อระบบได้ต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากที่อาเซียนได้พัฒนาเอกสาร ASEAN guideline on the establishment of food traceability system เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ โดยเอกสารดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐมนตรีเกษตรและป่าไม้อาเซียน ครั้งที่ 43 เมื่อเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ในการประชุมครั้งนี้ ไทยได้เสนอให้มีการจัดฝึกอบรมด้านระบบตรวจสอบย้อนกลับสำหรับประเทศสมาชิกอาเซียน โดยใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพื้นฐาน เพื่อให้ความรู้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าเกษตรและอาหารของอาเซียนตลอดห่วงโซ่ โดยอาจขอรับการสนับสนุนด้านบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและงบประมาณจาก EU ARISE Plus โดย มกอช. จะแนะนำระบบ QR Trace ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบย้อนกลับของไทยที่พัฒนาโดย มกอช. สำหรับสินค้าที่ได้รับเครื่องหมาย Q ให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทราบ และพิจารณาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับของอาเซียนต่อไป
"ระบบ ARASFF จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2552 โดยเป็นข้อเสนอของประเทศไทยในการพัฒนาระบบเพื่อยกระดับการแจ้งเตือนในสินค้าอาหารและอาหารสัตว์ของอาเซียนให้มีความรวดเร็วและโปร่งใส โดยมี มกอช. เป็นผู้ดูแลระบบ"เลขาธิการ มกอช. กล่าว