7 เมษายน ของทุกปี องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้เป็นวันอนามัยโลก (World Health Day) เป็นหมุดหมายที่สำคัญในการรณรงค์ด้านสุขภาพของคนทั่วโลก ทั้งในแง่การควบคุม ป้องกัน แก้ปัญหา และส่งเสริม ให้เกิดความทั่วถึง อย่างถ้วนหน้าและเท่าเทียมกัน ในปี 2565 นี้มีการกำหนดหัวข้อรณรงค์ไว้ว่า Our planet, our health สืบเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 และสถานการณ์ปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้เห็นว่าจริง ๆ แล้ว ผลกระทบทางด้านสุขภาพที่พลเมืองโลกต้องเผชิญนั้นไม่ได้เป็นปัญหาของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เราต่างต้องเผชิญร่วมกัน มีผลกระทบต่อเนื่องกันอย่างเลี่ยงไม่ได้แม้อยู่คนละซีกโลก รวมทั้งทำให้เห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคนิคการแพทย์ คือพลังสำคัญในการต่อสู้กับช่วงเวลาที่แสนยากลำบากนี้
ท่ามกลางภัยคุกคามต่อสุขภาพ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ หรือ N Health ได้ทำหน้าที่สนับสนุนการทำงานด้านสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ บริการบริหารจัดการต่าง ๆ ในซัปพลายเชน ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรมทางการแพทย์ เครื่องมือและเวชภัณฑ์ เป็นต้น จึงเล็งเห็นว่าวิทยาศาสตร์และเทคนิคการแพทย์ จะเป็นจุดเปลี่ยนวิถีดูแลสุขภาพของคนยุคใหม่ที่สำคัญอย่างยิ่งใน พ.ศ. นี้
นางสาวณัฏฐา จันทร์เปล่งแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) กล่าวว่า "ปัจจุบันประชาชนมีทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่หลากหลายอยู่แล้ว แต่จากนี้ทางเลือกเหล่านั้นจะเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น การดูแลสุขภาพจะมีความเป็น Consumer Centric มากขึ้น ประชาชนจะมองการดูแลสุขภาพเป็นองค์รวม และมีความเฉพาะเจาะจงตามแต่ละบุคคลมากขึ้น หรือที่เรียกว่า Personalization วิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุภาพจะไม่มีเฉพาะแพทย์หรือพยาบาล แต่จะมีวิชาชีพที่เข้ามาสนับสนุนมากขึ้น ไม่ว่าจะนักโภชนาการ เทรนเนอร์ นักกายภาพบำบัด นักบำบัดในสาขาต่าง ๆ นักเทคนิคการแพทย์เป็นต้น ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสุขภาพทางห้องปฏิบัติการจะทวีความสำคัญยิ่งขึ้น ให้ประชาชนรู้พยาธิสภาพของร่างกายก่อนเลือกการดูแล รักษา หรือบำบัด"
ทาง N Health คาดการณ์ว่าวิทยาศาสตร์และเทคนิคการแพทย์ ที่กำลังมีอิทธิพลต่อการดูแลสุขภาพของประชาชน มี 5 เทรนด์ที่สำคัญ ดังนี้
สามข้อแรกนี้จะเห็นได้ชัดว่าเป็นเทรนด์ที่มีความเกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าทางวิทยาการทางสุขภาพ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเทรนด์ในด้านการบริการและความเข้าถึงวิทยาการดังกล่าว
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเทรนด์การดูแลสุขภาพจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด เป้าหมายที่สำคัญก็คือการมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่แข็งแรง ห่างไกลจากภาวะความเจ็บป่วย สามารถดำเนินชีวิตไปข้างหน้าได้ตามปกติได้ในทุก ๆ วัน อย่างยืนยาว เพื่อเติมเต็มความหมายและดื่มด่ำกับการมีชีวิตได้อย่างไร้กังวล