เริ่มต้นเปิดศักราชใหม่ปี 2565 บรรดาผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน ต่างมั่นอกมั่นใจและคาดการณ์ว่ามูลค่ารวมตลาดรับสร้างบ้านจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา แต่ผ่านไปเพียงแค่ไตรมาสแรกหรือย่างก้าวเข้าสู่ไตรมาส 2 เท่านั้นกลับพบว่าความมั่นใจก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความหวาดผวา เมื่อธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเผชิญกับวิกฤติและผลกระทบจากปัจจัยลบหลาย ๆ ด้านที่คาดไม่ถึง ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ผลกระทบจากวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ราคาน้ำมันและต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงภาวะเศรษฐกิจประเทศและกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีแนวโน้มหดตัว ดังนั้นบรรดาผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั้งรายเก่ารายใหม่ จึงต้องหันมาหาทางแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่ได้รับกันชุลมุน รวมถึงเร่งปรับตัวและหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ เพื่อความอยู่รอดและสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งนับเป็นความท้าทายอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้านมานาน
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่าประสบการณ์ 30 ปีเศษที่ผ่านมา สำหรับพีดีเฮ้าส์แล้วเคยเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจและผลกระทบที่ได้รับมาหลายครั้งหลายคราว ตัวอย่างเช่น ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามอ่าวเปอร์เซียปี 2534 เหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 อุทกภัยครั้งใหญ่ปี 2538 ฯลฯ และวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 หรือวิกฤติต้มยำกุ้งที่เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจในวงกว้าง และถือได้ว่าหนักที่สุดสำหรับธุรกิจรับสร้างบ้านและภาคธุรกิจอื่น ๆ ขณะนั้นมีผู้ประกอบการรับสร้างบ้านแข่งขันกันเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจำนวนกว่า 200 ราย ซึ่งต้องล้มหายหรือเลิกกิจการและเหลืออยู่เพียงแค่ไม่ถึง 30 ราย และพีดีเฮ้าส์เป็นรายหนึ่งที่สามารถรอดพ้นจากวิกฤติครั้งนั้นมาได้ กระทั่งนำมาสู่แนวคิดริเริ่มและการผลักดันของทีมผู้บริหาร ที่ชักชวนบรรดาผู้ประกอบการรับสร้างบ้านให้รวมตัวกันจนสำเร็จ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะยกระดับภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน สร้างการรับรู้สู่ผู้บริโภคในวงกว้าง และสร้างการยอมรับของผู้ประกอบการในแวดวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการมุ่งขยายตลาดรับสร้างบ้านออกไปยังต่างจังหวัดหรือทั่วประเทศ ด้วยเหตุผลเพราะไม่อยากเห็นธุรกิจรับสร้างบ้านและบรรดาผู้ประกอบการต้องล้มหายหรือเลิกกิจการเหมือนในอดีต หากต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจรอบใหม่ในอนาคต และด้วยแนวคิดที่ว่าตลาดรับสร้างบ้านหรือความต้องการสร้างบ้านบนที่ดินของผู้บริโภคและประชาชน มิใช่มีแค่เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น
"ที่ผ่านมา พีดีเฮ้าส์ เองได้พยายามแปรเปลี่ยนจากแนวคิดไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายอื่น ๆ ทั้งการพัฒนารูปแบบการจัดการธุรกิจ การสร้างมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการ การขยายสาขาและพื้นที่การให้บริการออกไปทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าไม่ได้ประสบความสำเร็จหรือมีรายได้เติบโตทุกสาขา แต่สิ่งหนึ่งที่ได้รับจากประสบการณ์ขยายสาขาหลาย ๆ พื้นที่หรือในต่างจังหวัดก็คือ การเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ และการกระจายความเสี่ยง ในอีกมุมหนึ่งก็ช่วยลดแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจถดถอยและกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว และกระทบกับภาพรวมตลาดรับสร้างบ้าน ซึ่งอันที่จริงแล้วกำลังซื้อและความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ในช่วงเวลาหนึ่งนั้นไม่ได้เป็นไปทิศทางเดียวกันเสมอ หรืออาจกล่าวได้ว่าไม่ได้ชะลอตัวหรือขยายตัวพร้อม ๆ กันทั่วประเทศ อย่างเช่น บางช่วงเวลาความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคหรือยอดขายจากภูมิภาคหนึ่งลดลง ในขณะที่อีกภูมิภาคหนึ่งยอดขายกลับเติบโต เป็นต้น"
นายพิศาล เผยว่าวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และผลกระทบจากวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครนในปีนี้ สำหรับ พีดีเฮ้าส์ แล้วอาจถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ได้รับ และเชื่อมั่นว่าจะผ่านไปได้ไม่ยากนัก ด้วยอาศัยประสบการณ์ในอดีตที่สั่งสมมาและนำมาปรับใช้หรือแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแนวคิดการสร้างโอกาสใหม่ ๆ และการกระจายความเสี่ยง อีกประการที่สำคัญคือ วิสัยทัศน์และมุมมองขององค์กรที่มีต่อทิศทางธุรกิจในอนาคตและพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราจะต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาและไม่หยุดนิ่ง ทั้งด้านผลิตภัณฑ์หรือการออกแบบและมาตรฐานก่อสร้าง การให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กรที่สามารถสัมผัสได้โดยตรงภายใต้แบรนด์พีดีเฮ้าส์ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานใดมารับรองแทน พร้อมทั้งวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีความชัดเจนในสายตาผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านประหยัดพลังงานและบ้านเพื่อสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาและปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
หากจะกล่าวว่าวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 และผลกระทบจากวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจไม่มีผลกระทบใด ๆ กับพีดีเฮ้าส์ก็คงไม่ผิด เพราะจากตัวเลขยอดขายไตรมาสแรกที่เติบโตแล้ว แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2 ก็ดูจะยังเติบโตสวนทางเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านที่คาดว่าจะชะลอตัว ดังจะเห็นว่ากลยุทธ์ที่พีดีเฮ้าส์นำมาใช้ในการปรับตัว เพื่อจะฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นให้รอดพ้นนั้น มิใช่เริ่มต้นคิดและลงมือทำเมื่อวิกฤติถาโถมเข้ามาแล้ว หากแต่เกิดจากวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกล การเตรียมพร้อมบนความไม่ประมาทและปรับตัวอยู่เสมอ นายพิศาล กล่าวสรุป